เรื่องจริงต้องรู้…/ช. พิทักษ์.. อัฟกานิสถานล่มสลาย..

ยัง ๆ ๆ ๆ ยังไม่เขียนเรื่องคำวิจารณ์การจัดโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว เพราะเผอิญมีเรื่องอัฟกานิสถานมาขัดจังหวะ เมื่อประเทศมุสลิมแห่งนี้ได้พบกับการล่มสลาย ๆหลังขบวนการก่อการร้ายทาลีบันมีชัยชนะเหนือกองทัพรัฐบาลนายอัชราฟ ฆานี ..

(https://www.indiatvnews.com/news/world/ashraf-ghani-fled-with-4-cars-and-a-helicopter-filled-with-cash-afghanistan-taliban-conflict-latest-updates-726911)

ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีปี 2014 หรือ 2557 โดยเป็นชัยชนะที่เกิดหลังการสู้รบที่ได้รับการขนานนาม Afgan War หรือสงครามอัฟกานิสถาน ชัยชนะที่เกิดวันที่ 15 เดือนนี้ หรือวันอาทิตย์ที่แล้ว

(https://asiatimes.com/2021/04/cause-to-fear-a-taliban-victory-in-afghanistan/)

โดยขบวนการทาลีบันได้เคลื่อนกองกำลังเข้ายึดครองกรุงคาบูล ผลคือ ประชาชนและชาวต่างประเทศที่เข้ามาพำนักพากันหลบหนี จนเกิดคลื่นผู้อพยพครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง แถมพวกนี้ยังอยากอพยพไปอยู่ประเทศในเครือสหภาพยุโรป ..

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมนี ดังนั้นประเทศเหล่านี้จึงจะต้องรับภาระเลี้ยงดูอีกครั้ง เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รุู้ เพราะพอเกิดคลื่นผู้อพยพในประเทศไหนก็ตาม ผู้อพยพเหล่านั้นมักเลือกที่จะไปประเทศยุโรปตะวันตก

ที่เป็นประเทศในเครือสหภาพยุโรป ที่มีประวัติให้การต้อนรับและดูแลอย่างดี โดยผู้อพยพยังจะได้รับการโอนสัญชาติ หากต้องการเป็นพลเมือง ..

(https://www.dw.com/en/what-challenges-do-afghan-asylum-seekers-face-in-germany/a-18720425)

ก็ตะลึงกันไปทั่ว โดยเฉพาะนักติดตามและนักประเมินความเคลื่อนไหว รายหนึ่งคือ กลุ่มนักวิเคราะห์ข้อมูลข่าวกรองสหรัฐอเมริกาที่เพิ่งสรุปว่า คงต้องรออีกหลายสัปดาห์กว่าสงครามอัฟกานิสถานจะยุติ..

โดยในที่สุดฝ่ายรัฐบาลจะชนะเพราะมีกองทัพสหรัฐฯ ๆ ที่มีกองกำลังและพร้อมจะรบ แต่ ๆ ๆ ให้เผอิญประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ไม่เห็นด้วยกับการที่สหรัฐฯเข้าไปทำศึกยืดเยื้อ ได้รับเลือกตั้งปลายปีที่แล้ว..

(https://www.timesnownews.com/india/article/why-a-small-irish-town-is-celebrating-biden-s-victory-and-the-president-elect-s-mumbai-connection/679658)

และต้นปีทันทีที่เข้ารับตำแหน่งประกาศถอนทหาร พร้อมกับวางมือจากการเข้าไปแทรกแซง ทำเช่นนี้โดยไม่ปรึกษาหรือสนใจความรู้สึกของประเทศพันธมิตรนาโต้ ที่ส่งกองกำลัง Security Assistance Force (ISAF)

หรือกองกำลังช่วยเหลือด้านความมั่นคง อักษรย่อ ไอเอสเอเอฟ เข้าไปช่วยรบ อยากเขียนเรื่องสงครามอัฟกานิสถาน เพราะอยากให้คนไทยรู้จักขบวนการก่อการร้ายรูปแบบใหม่ คือ เราเคยรู้ขบวนการพวกนี้ล้วนติดอาวุธ..

และออกรบตะลุยฆ่าฟันคนและกองกำลังที่ขวางหน้า แต่ไม่ใช่เช่นนั้นอีกแล้ว โลกกำลังเผชิญหน้ากับกลุ่มก่อการร้ายรูปแบบใหม่ ซึ่งถึงแม้จะยังพกอาวุธและปฏิบัติการโหด แต่ก็แสดงท่าทีมีความเป็นมนุษย์พันธ์ดี..

ทั้งการให้ความเคารพต่อเพื่อนมนุษย์ และต่อกฏระเบียบปฏิบัติบนพื้นฐานมนุษยธรรม

การปรับเปลี่ยนเช่นนี้เกิดปี 2017 หรือ 4 ปีที่แล้ว เมื่อกลุ่มอัลเคด้า ที่เป็นผู้จุดไฟสงคราม ด้วยการออกปฏิบัติการวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 ด้วยการจี้เครื่องบิน และบังคับให้บินชนตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในมหานครนิวยอร์ก..

(https://www.dw.com/en/timeline-us-and-nato-involvement-in-afghanistan/a-58870236)

กับอาคารเพนตากอนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กลุ่มอัลเคด้าได้ส่งจดหมายเปิดผนึกไปยังโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งขณะนั้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้เขาประกาศถอนทหารสหรัฐฯออกจากอัฟกานิสถาน.

การเรียกร้องไม่ได้ผล แต่ก็ทำให้มีการเปิดการเจรจาระหว่างขบวนการทาลีบันกับรัฐบาลสหรัฐฯ จนในที่สุดมีการลงนามในข้อตกลงสันติภาพระหว่างทั้งสอง ท่ามกลางความเบิกบานของฝ่ายที่รับเคราะห์กรรม…

(https://www.nbcnews.com/news/world/taliban-sign-landmark-agreement-bid-end-america-s-longest-war-n1145166)

เพราะในข้อตกลงขบวนการทาลีบันได้ยินยอมที่จะทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ใครหรือกลุ่มใดใช้พื้นที่อัฟกานิสถาน เพื่อสู้รบหรือเป็นปฏิปักษ์กับสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรนาโต้

แน่นอนความเบิกบานส่วนหนึ่งคือ การได้เห็นการยุติสงครามที่ถึงแม้จะดูเล็ก แต่ก็สร้างความสุญเสียทั้งด้านกำลังพลและงบประมาณมากไม่แพ้สงครามใหญ่ มีการประเมินแล้ว สงครามที่ดำเนินมา 20 ปี นับตั้งแต่เหตุการณ์ 11 กันยายน..

(https://www.nytimes.com/2018/11/15/world/asia/afghanistan-military-death-toll.html)

ได้ทำให้เกิดการสูญเสียทางด้านกำลังพล 3,502 ราย ตัวเลขที่นับเมื่อถึงเดือนพฤษภาคมปีกลาย ในจำนวนนี้เป็นอเมริกัน 2,355 ราย อังกฤษ 456 แคนาดา 157 ฝรั่งเศส 88 เยอรมัน 62 และอิตาลี 53 ที่เหลือเป็นกำลังพลอีก 26 ประเทศ..

ซึ่งมีทั้งตุรกี จอร์แดน และเกาหลีใต้ กำลังพลตุรกีเสียชีวิต 15 ราย จอร์แดน 2 และเกาหลีใต้ 2 ยังไม่นับกำลังพลอัฟกานิสถานอีกกว่า 28,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นตำรวจ ส่วนด้านงบประมาณมีการประเมินเมื่อถึงเดือนกันยายน 2019..

สหรัฐฯได้ใช้งบประมาณไปแล้ว 787,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2.49 ล้านล้านบาท ส่วนอังกฤษใช้ประมาณ 30,000 เหรียญ หรือ 960,000 ล้านบาท และเยอรมนีใช้ประมาณ 19 ล้านเหรียญ หรือ 608,000 ล้านบาท.

ทั้งนี้สองประเทศหลังเป็นกำลังหลักของกองกำลังไอเอสเอเอฟ..

แต่มีการประเมินตั้งแต่นี้จนอีก 3 ปี ในการทำสงครามอัฟกานิสถานสหรัฐฯและประเทศพันธมิตรนาโต้จะต้องใช้งบประมาณรวมกันมากถึงปีละ 4,000 ล้านเหรียญ หรือ 128,000 ล้านบาท ใช้จำนวนเท่านี้แม้ว่าจะถอนทหารเกือบหมดแล้ว…

ยังมีตัวเลขงบประมาณที่น่าสนใจอีกตัวเลขหนึ่ง นั่นคือ ตัวเลขค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูอัฟกานิสถาน ซึ่งเฉพาะสหรัฐฯประเทศเดียวใช้ไป 143,000 ล้านเหรียญ หรือ 4.6 ล้านล้านบาท นับตั้งแต่ปี 2002 หรือปีถัดจากการโจมตีเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์..

อย่า ๆ ๆ ให้เกิดการใช้กำลังในประเทศของเรา บอก ๆ มาเลย ให้กลุ่มเคลื่อนไหวประกาศจุดมุ่งหมายและแนวทางปฏิบัติการเพื่อให้บรรลุความสำเร็จ จะเป็นแนวไหนและวิธีใดไม่ว่ากัน แต่ขอให้บอก ให้ประกาศเป็นทางการ…

เพื่อให้คนที่ไม่เห็นด้วยออกมาต่อต้าน ไม่ใช่ออกมาโดยไม่รู้ความต้องการของอีกฝ่ายอย่างเป็นทางการ ทำเช่นนี้ได้ รับรองทั่วโลกจะตกใจกับจำนวนคนไทยที่รักชาติ รักสถาบัน รักทุกอย่างที่มีความเป็นไทย..

โดยยังรักแบบหาคนประเทศอื่นเทียบยาก