CPFชวนลูกทานข้าวรสมือแม่
แคมเปญ “ทุกคำมีความหมาย”

ซีพีเอฟ ตอกย้ำผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม-อาหารและผู้ผลิตอาหารคุณภาพ “แบรนด์ ซีพี” ทุ่มงบฯ 25 ล้านบาทเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “ทุกคำที่ไม่มีใครทำแทนได้” ภายใต้แคมเปญ “ทุกคำมีความหมาย”  ต่อเนื่องปี3 กระตุ้นคนไทยระลึกถึงพระคุณของแม่ ชวนลูกๆกลับมารับประทานอาหารฝีมือแม่ที่คุ้นเคย อาหารที่แม่ปรุงอย่างพิถีพิถัน ทำให้ทุกคำไม่มีใครทำแทนได้ เริ่มเผยแพร่คืน9ส.ค.ผ่านสถานีโทรทัศน์ช่องหลัก  ช่องดิจิตอล และสื่อดิจิตอลต่าง ๆ อาทิ ยูทูปและเฟซบุ๊ก ตั้งเป้า59ธุรกิจโต15%

นายวิทวัส ตันติเวสส รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านการตลาดบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ  ในฐานะเจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารแบรนด์ซีพี ที่มีสโลแกน “เติมชีวิตที่ดี” คือ ซีพี ไม่เพียงทำให้คนไทยอิ่มท้องด้วยอาหารที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้คนไทยได้เติมเต็มความหมายของการมีชีวิตอยู่ ซึ่งการทำแคมเปญ “ทุกคำมีความหมาย” นี้แบรนด์ซีพีต้องการสร้างให้ผู้บริโภคเกิดความรักและความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ จึงสื่อให้เห็นถึงความใส่ใจในคุณภาพของอาหารซีพีที่มีต่อผู้บริโภค นอกจากนี้แบรนด์ซีพียังต้องการสร้างแบรนด์ให้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่วนรวม ตามหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ของการทำธุรกิจ คือ การทำประโยชน์ให้กับประเทศที่ไปลงทุน ประโยชน์ของประชาชนในประเทศนั้นๆ และประโยชน์ต่อบริษัท ซีพีจึงผลิตภาพยนตร์โฆษณาในเชิงสร้างสรรค์สังคมมาอย่างต่อเนื่อง

“สำหรับแคมเปญ “ทุกคำมีความหมาย” บริษัทจัดทำอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายใต้แนวคิดที่มาจากการคัดสรรและเอาใจใส่ในคุณภาพอาหารของแบรนด์ซีพีที่มีต่อคนไทยมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน คือ การเน้นที่ “คุณภาพของอาหารที่ช่วยทำให้สังคมไทยดีขึ้น”เพราะแบรนด์ซีพีเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะน่าอยู่ยิ่งขึ้น เพราะอาหารทุกคำได้สร้างความหมายที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ทุกชีวิต”

ปีแรกของแคมเปญ “ทุกคำมีความหมาย” แบรนด์ซีพีมีแนวคิดมาจากของคุณภาพที่เป็นพลังผลักดันสังคมไทย หรือ ทุกคำเพื่อการก้าวไปข้างหน้า โดยเน้นถึงคนหลายกลุ่ม หลายวัยให้เห็นว่า แต่ละคำมีความหมาย เช่น คำนี้เพื่ออุดมการณ์ คำนี้เพื่อกตัญญู คำนี้เพื่อรักแรก จึงเป็นที่มาของภาพยนตร์โฆษณาชุด “เพราะทุกคำมีความหมาย” 

ปีที่สอง ของแคมเปญ “ทุกคำมีความหมาย”  ยังคงเน้นแนวคิดเดิมที่ให้ความสำคัญของอาหารที่ไม่เพียงทำให้เราอิ่มท้อง แต่ในทุกมื้อ..ทุกคำ ล้วนแฝงด้วความหมายอันลึกซึ้ง และเพิ่มมุมมองของสังคมไทยที่ใช้อาหารเป็นสื่อกลางส่งความรู้สึกเอาใจใส่ให้คนที่รักได้รับรู้ จึงเป็นที่มาของภาพยนตร์โฆษณาชุด “ทุกคำมีความหมาย”ยาว 180 วินาที ผ่านเรื่องราวความรักของแม่ ที่เป็นผู้เลือกสิ่งดี ๆ ให้ลูก ทำให้ลูกทุกคนได้จดจำถึงความทุ่มเทของแม่ อาหารทุกมื้อที่แม่ใส่ใจดูแล

ภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคและมีกิจกรรมออนไลน์ที่ผู้บริโภคร่วมแชร์คำที่มีความหมายของแม่ผ่านทางแฟนเพจของซีพีแบรนด์ ผลสำรวจพบว่า เป็นหนึ่งในแคมเปญวันแม่ที่ดีที่สุดในปี 2558 จากทุกแหล่ง และยังได้รางวัลจากหลายสถาบัน เช่น รางวัล Bronze จากสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย รางวัล Adman Awards ในสาขา Corporate รางวัลอันดับ 3 Youtube Ads Leaderboard Award จาก Youtube ประเทศไทย และรางวัลอันดับที่ 8 ของ Youtube  Ads Leaderboard ใน Asia Pacific ด้วย แสดงให้เห็นถึงโฆษณาที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่ผู้คนเลือกจะชม โดยยังเป็นการเเสดงถึงเเบรนด์ที่มีผลงานโฆษณาโดดเด่นที่สุดในเมืองไทย ที่ผ่านการพิจารณาจากทั้งด้านความนิยมเเละความชื่นชอบของผู้ชมด้วยกัน

นายวิทวัสกล่าวต่อว่า สำหรับในปีนี้ซีพีได้ผลิตภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “ทุกคำที่ไม่มีใครทำแทนได้” มาเผยแพร่ในช่วงเทศกาลวันแม่ โดยนำเอาเรื่องราวใกล้ตัวของคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักมาเดินเรื่อง จากความคิดของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันจะคิดว่าการรับประทานข้าวนอกบ้านอร่อยกว่าทานข้าวในบ้านที่น่าเบื่อ เมนูซ้ำๆ รสชาติเดิมๆ ที่รับประทานมาตั้งแต่เด็ก จึงคิดว่าเราสามารถรับประทานข้าวที่บ้านเมื่อไรก็ได้ โดยลืมไปว่าข้าวทุกจาน อาหารทุกคำที่แม่ทำให้เรานั้นเป็นการทำอย่างพิถีพิถัน เลือกสรรแต่ของดีมีคุณภาพ รวมถึงการใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ไปพร้อม ๆ กับการเติมความรัก ความตั้งใจ และหัวใจของแม่ลงไปในการปรุงอาหารทุกครั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดที่เราชอบมากที่สุด โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จะเน้นเรื่อง อาหาร คือ ความรัก ความห่วงใยของแม่ที่มีต่อลูกที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทำแทนได้

ทั้งนี้จะเริ่มเผยแพร่คืน9ส.ค.ผ่านสถานีโทรทัศน์ช่องหลัก  ช่องดิจิตอล และสื่อดิจิตอลต่าง ๆ อาทิ ยูทูปและเฟซบุ๊ก นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมภายใต้แคมเปญ “ทุกคำมีความหมาย” ด้วยการเชิญชวนผู้สนใจร่วมแชร์ภาพอาหารของแม่ หรือภาพการรับประทานอาหารร่วมกันของครอบครัว และเรื่องราวสั้น ๆ เกี่ยวกับอาหารของแม่ในคอมเม้นท์ใต้โพสต์ภาพยนตร์โฆษณาใน www.facebook.com/brandcp ภายในเดือนสิงหาคมนี้ โดยซีพีจะทำการคัดเลือกผู้ที่เข้ารอบเพื่อสัมภาษณ์เพิ่มเติม และนำเรื่องราวดี ๆ ของแม่ลูกที่ประทับใจไปเผยแพร่ในนิตยสาร A Day Bulletin./

นายวิทวัส เปิดเผยว่า โฆษณาชิ้นนี้ทุ่มงบประมาณมากถึง 25 ล้านบาทจากงบประมาณด้านการตลาดรวมของปีนี้อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งใช้ไปแล้วประมาณ 50%

สำหรับภาพรวมของตลาดธุรกิจอาหารในปี 2559 ยังถือว่า มีความสำคัญ ด้วยอาหารเป็นปัจจัย 4 ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ทุกคนต้องบริโภคและผลิตภัณฑ์ของซีพียังเป็นที่ 1 ของคนไทย ซึ่งซีพีเอฟจะทำให้ดีที่สุด เน้นเรื่องคุณภาพและความอร่อย

ทั้งนี้ธุรกิจอาหารของซีพีเอฟแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. อาหารสด เช่น หมู ไก่ สดและหมัก ไข่ หมูคุโรบูตะ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 40% 2. กลุ่มไส้กรอก คิดเป็น 30%  3. กลุ่มอาหารพร้อมบริโภค พวกข้าวหน้าต่าง ๆ เกี๊ยวกุ้ง มีสัดส่วน 15% และ 4. กลุ่มสแน็คหรืออาหารทานเล่น พวกเบอร์เกอร์ วัฟเฟิล และอื่น ๆ อีก 15%  ซึ่งจะมีการออกสินค้าใหม่ ๆ ในทุกไตรมาส ประมาณ 10 อย่าง

สำหรับยอดขายในประเทศปี 2559 นี้ ตั้งเป้าเติบโต 15% ซึ่งที่ผ่านมาแม้สภาวะเศรษฐกิจจะซบเซาไปบ้าง แต่ยอดขายผลิตภัณฑ์ของซีพีไม่ได้รับผลกระทบ

ในส่วนของอาหารพร้อมบริโภค มักเน้นออกตามเทศกาล เช่น เป็ดไก่ สปาเก็ตตี้ ข้าวหน้าต่าง ๆ เกี๊ยวกุ้ง ขนมหวาน สำหรับเทศกาลสารทจีนที่จะมาถึงวันที่ 17 สิงหาคมนี้ตั้งเป้าเติบโต 10% ปี 2558 ที่ผ่านมาโตประมาณ 15% โดยขยายช่องทางขายและอำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค เช่น รับโทรสั่ง นอกจากนี้ยังวางขายเพิ่มในแม็คโคร ซีพีเฟรชมาร์ท  เทสโก้โลตัส เซเว่น-อีเลฟเว่น และตลาดสด