Airbnb แนะนำที่พักเพื่อการพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติสุดฟิน

ประเทศไทยเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ ตั้งแต่แนวปะการัง ป่าดงดิบ ไปจนถึงยอดเขาที่มองเห็นทะเลหมอกสวยๆ ภูมิประเทศทางธรรมชาติของประเทศไทยมีความหลากหลาย และคนไทยหลายคนเองสนใจออกตามหาความงามตามธรรมชาติภายในประเทศไทยมากขึ้นเช่นกัน

Airbnb เผยรายงาน Rebuilding tourism in Asia-Pacific: A more conscious travel?” จัดทำโดย Economist Impact ระบุว่า
ชาวไทยกว่า 70% วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในชุมชนที่ยังไม่เป็นที่รู้จักให้บ่อยขึ้น และ 72% ระบุว่าการเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนท้องถิ่นที่เดินทางไปเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสรุปได้อีกอย่างหนึ่งว่า คนไทยมีความใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นนั่นเอง

ทั้งนี้ยังมีที่พักที่มีความโดดเด่นบน Airbnb อยู่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบ้านต้นไม้ บ้านแบบเคบิน บ้านบนเนินเขาหรือที่พักผ่อนริมแม่น้ำ โดย Airbnb ขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสุดฮิตในประเทศไทยเพื่อเป็นไอเดียสำหรับคนที่อยาก
ออกสำรวจในช่วงกรีนซีซั่นนี้

1.นครราชสีมา

จุดหมายปลายทางสุดฮิตของชาวกรุงเทพฯ เมืองแห่งอากาศอันบริสุทธิ์ มีทัศนียภาพที่สวยงามด้วยภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและน้ำตกสวยงาม เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบทำกิจกรรมการผจญภัย การเดินป่า ปั่นจักรยานเสือภูเขา หรือ จะแวะเช็คอินร้านกาแฟ ร้านอาหาร และตลาดในท้องถิ่น ซึ่งเป็นอะไรที่เหมาะกับการเพลิดเพลินไปกับสโลว์ไลฟ์เพื่อซึมซับวัฒนธรรมท้องถิ่น
ทั้งนี้ในจังหวัดนครราชสีมามี วิลล่าขนาดใหญ่ใกล้ชิดธรรมชาติ ที่กว้างขวางทั้งภายในและภายนอก ตั้งอยู่ริมลำธารโดยมีตลาดและน้ำตกที่อยู่ไม่ไกล เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางพร้อมน้องหมาน้องแมวอีกด้วย ที่พักบนเนิน ที่จะได้เห็นทิวทัศน์ภูเขาอันสวยงาม นอกจากนั้นยังมี บ้านพักเคบินสไตล์ไทย ที่โอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวหลายไร่และมีตลาดปากช่องที่อยู่ห่างออกไปเพียง 5 กม. ก็เป็นสถานที่ที่น่าสนใจ เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาที่พักผ่อนอันเงียบสงบได้อีกแห่งหนึ่งด้วย

2. แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอน แหล่งชุมชนสร้างสรรค์ ธรรมชาติงดงาม และการผจญภัย ที่ขึ้นชื่อ นักท่องเที่ยวสามารถกลับสู่ธรรมชาติด้วย บ้านพักบังกะโลหลังใหญ่พร้อมพื้นที่กิจกรรมสำหรับครอบครัว และเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง  ซึ่งผู้เข้าพักยังสามารถเพลิดเพลินกับการเล่นโยคะ ผ่อนคลายในน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียง หรือนักท่องเที่ยวที่อาจจะอยากพักห่างออกไปจากตัวเมืองปายสักหน่อย ก็สามารถเลือก ปายริเวอร์แฟนคอทเทจซี ซึ่งรายล้อมไปด้วยทิวทัศน์อันเขียวขจีและมองเห็นวิวของแม่น้ำปาย นอกจากนั้นยังมี บ้านสองชั้นแสนสบาย ที่พักบนทิวทัศน์นาข้าวติดลำธาร สามารถมอบความสงบเงียบเพื่อการชื่นชมธรรมชาติและเติมพลังให้กับจิตใจและร่างกายอย่างแท้จริง

3. พังงา

พังงา อีกหนึ่งสถานที่ที่มีภูมิทัศน์ทางธรรมชาติหลากหลาย สามารถเดินทางไปถึงได้ง่ายจากสนามบินจังหวัดภูเก็ตหรือจังหวัดกระบี่ที่อยู่ใกล้กัน พังงามีพื้นที่ชายฝั่งทะเลเขาหลักและอ่าวพังงาอันโด่งดัง พร้อมด้วยถ้ำและเกาะแก่งช่องหินปูนอันสวยงาม สำหรับ
นักเดินทางที่ต้องการอยู่ผจญภัยบนฝั่งและไปเยือนน้ำตกที่ยังไม่ค่อยมีคนเคยเข้าไปสัมผัสหลายแห่ง เดินป่าดิบชื้น และชมพืชพันธุ์สัตว์นานาชนิด นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมธรรมชาติได้เต็มที่ พร้อมเพลิดเพลินกับชีวิตในท้องถิ่น ณ Khanittha Homestay ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ใกล้ป่าชายเลนที่น่าสำรวจได้อีกด้วย นอกจากนั้น ถ้าคุณชอบเดินบนหาดทรายสีขาว สัมผัสชีวิตในท้องถิ่นและเส้นทางเดินป่า ก็น่าจะเหมาะกับ Villa Aria หรือ The Waterhouse ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะยาวน้อย

4. เชียงใหม่

สำหรับใครที่ชอบท่องเที่ยวเมืองประวัติศาสตร์และย่านฮิปสุดสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่างนิมมาน เชียงใหม่ ยังมีธรรมชาติอันกว้างใหญ่ให้สำรวจทั้งนอกเมืองและทั่วทั้งจังหวัด โดยมีสถานที่ทางธรรมชาติหลายแห่งเช่น ดอยอินทนนท์ ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย หรือ ดอยสุเทพ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและการเดินป่าที่ดีที่สุดที่หนึ่งในประเทศ พร้อมกับชื่นชมวัฒนธรรมล้านนาที่คงความเป็นเอกลักษณ์ ชาวเขา และอาหารภาคเหนือแสนอร่อย

สามารถเลือกบ้านไม้สักแกะสลักด้วยมือที่ผสมผสานวัฒนธรรมและธรรมชาติด้วยกันได้ที่ hand-crafted teak house บนเชิงดอยสุเทพ หรือเลือกพักที่ local woodhouse ที่ผสมผสานวัฒนธรรมล้านนา-ญี่ปุ่นโดย ซึ่งตั้งอยู่นอกใจกลางเมือง นอกจากนั้นยังมี
84 Y’s Thai Style House ที่พักซึ่งสร้างขึ้นจากไม้และไม้ไผ่เก่ารีไซเคิล ตั้งอยู่ในหมู่บ้านชุมชนท้องถิ่น และยังเป็นฐานที่พักที่เหมาะต่อการออกสำรวจธรรมชาติโดยรอบ

หากคุณเป็นคนรักธรรมชาติและยังไม่ได้วางแผนตัดสินใจไปท่องเที่ยวที่ไหน ลองเข้าไปดู Airbnb Categories เช่น อุทยานแห่งชาติ บ้านต้นไม้ หรือชนบท เพื่อหาแรงบันดาลใจในการเดินทางได้เลย

เกี่ยวกับ Airbnb
Airbnb ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 โดยเจ้าของที่พัก 2 คนเปิดบ้านต้อนรับแขกผู้เข้าพัก 3 คนในซานฟรานซิสโก ปัจจุบัน Airbnb เติบโตด้วยจำนวนผู้ให้บริการที่พัก (โฮสต์) มากกว่า 4 ล้านคน และได้ต้อนรับแขกผู้เข้าพักมากกว่า 1 พันล้านคนในเกือบทุกประเทศทั่วโลก ในทุกๆ วันโฮสต์ต่างให้บริการที่พักและจัดเอ็กซ์พีเรียนซ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเพื่อให้ทุกคนมีประสบการณ์ที่แท้จริง และคอนเน็คกันได้ยิ่งกว่าที่เคย https://news.airbnb.com/th