สุดยอดSMEsของดีทั่วไทย
ข้างทำเนียบฯจัดถึง25ต.ค.
ตลาดนัดเพื่อให้ผู้ซื้อพบผู้ประกอบการโดยตรง “ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม” ข้างทำเนียบรัฐบาลเริ่มรอบใหม่แล้ว ภายใต้ชื่องาน “สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย” ซึ่งมีธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์)เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงาน โดยจะเชื่อมโยงกับงาน “นวัตกรรมและเทคโนโลยีไทยเพื่อ SMEs” จัดโดยกระทรวงวิทย์ฯที่เปิดงานตามหลังวันที่ 3 ตุลาคม 2558 นี้
บรรยากาศการเปิดงาน “สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย” เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีนางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองและนายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงค์) ร่วมเปิดงาน ซึ่งงานจะมีถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2558
นางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการ เอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า งาน “สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย” นำของดีซึ่งเป็นผลผลิตของผู้ประกอบการSMEs จากภาคต่าง ๆ หมุนเวียนกันมาขาย ทั้งของกิน ของใช้และของแปลก เช่น โรตีจ.ยะลาหรือหมี่เบตง เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีสินค้านวัตกรรมด้วย เช่น จักรยานไฟฟ้าผลงานของคนไทยที่มีราคาไม่แพงเริ่มต้นที่ 15,000 บาทเท่านั้น การสอนประกอบอาชีพ การเสนอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่ 4% สำหรับผู้ประกอบการของเอสเอ็มอีแบงก์ พร้อมทั้งมีบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) มาให้บริการ เพื่อให้สามารถตรวจเช็คประวัติหนี้สินฟรี จากปกติต้องมีค่าใช้จ่ายที่ 100-150 บาท การให้คำปรึกษาและสอนทำแผนธุรกิจ
นางสาว อรภัทร รังษีวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและสื่อสารองค์กร
ของเครดิตบูโร(กลาง)มาตรวจความเรียบร้อยในการให้บริการประชาชนด้วยตัวเอง
นางสาลินี กล่าวว่า ภายหลังดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเข้ามาได้ให้นโยบายดูแลเอสเอ็มอีไทยให้แข็งแรง ดูแลเอสเอ็มอีที่แข็งแรงแล้วให้ไปขายสินค้าในต่างประเทศได้ ช่วยเอสเอ็มอีที่แข็งแรงปานกลางให้เข็งแรงขึ้นและช่วยเอสเอ็มอีที่มีปัญหาให้ดีขึ้น
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2558 ที่ประชุมครม.ได้อนุมัติโครงการช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)แบ่งเป็น 2 มาตรการหลัก คือ ให้ SMEs สามารถกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าตลาด (Soft Loan) โดยจะคิดไม่เกิน 4% ต่อปี รวมวงเงิน 100,000 ล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินจะมาจากธนาคารออมสิน ระยะเวลากู้เงินไม่เกิน 7 ปี โดยรัฐบาลจะตั้งงบประมาณชดเชยให้กับธนาคารออมสิน 2,800 ล้านบาท/ปี
หรือการตั้งกองทุนเข้าไปช่วยเหลือ SMEs ขนาดเล็กที่มีปัญหาด้านเงินทุนให้มีสภาพคล่อง โดยธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และเอสเอ็มอีแบงก์ ร่วมทุนธนาคารละ 2,000 ล้านบาท รวมทั้งหมด 6,000 ล้านบาท และอาจช่วยเหลือเพิ่มเติมโดยให้กองทุนนี้เข้าไปถือหุ้นของ SMEs เหล่านั้นบางส่วน
นอกจากนี้ยังสนับสนุนSMEs แนวใหม่ หรือ Startup ทำธุรกิจเช่น ธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม มีโครงการสร้างผู้ประกอบการใหม่ที่มีสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( สสว.)ร่วมกับมหาวิทยาลัยตั้งศูนย์บ่มเพาะ ให้คำปรึกษา เพื่อช่วยให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ขึ้นในระบบ ซึ่งSME กลุ่มนี้จะได้รับการงดเว้นภาษีเป็นระยะเวลา 5 ปี
“สินค้าเอสเอ็มอีของไทยที่เด่น ๆ มีหลายอย่าง ทั้งด้านอาหาร แปรรูปผลผลิตทางการเกษตร การออกแบบเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายและเฟอร์นิเจอร์ก็ฝีมือดี ด้านไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ ด้านนี้มีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและมหาวิทยาลัยเข้ามาช่วย
เชิญชวนให้ประชาชนมาเที่ยวจับจ่ายซื้อสินค้ากันมาก ๆ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้มาชมงานจำนวนหลายแสนคนต่อเดือน ”
ทั้งนี้ภาพรวมของงาน “สุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย” จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ 4 พร้อมเสิร์ฟ คือ 1.ของกินถูกปาก 2. ของฝากถูกใจ 3. เงินทุนหลากหลาย และ 4. ตั้งตัวได้ในงาน ซึ่งถือว่าเป็นงานที่ครบเครื่องสำหรับผู้ที่มาช็อปมาชิมหรือ มาซื้อของในงาน หรือต้องการองค์ความรู้ เงินทุนดอกเบี้ยต่ำ จะเป็นจุดศูนย์รวมภายในงานเดียว
เสิร์ฟที่ 1 ของกินถูกปาก เอสเอ็มอีแบงก์ได้ยกทัพสินค้าทั่วทุกภาคของเมืองไทยมาให้ได้ลิ้มลอง อาทิเช่น ปลาทูก้างนิ่ม กินได้ทั้งตัวของขึ้นชื่อจากแม่กลอง มะพร้าวไฮเท็คเปิดง่ายไม่ต้องใช้มีดจากสมุทรสงคราม โรตีกรอบและหมี่เบตงรสชาติถูกใจยกขึ้นมาจากจังหวัดยะลา ผลิตภัณฑ์นมแพะจากจังหวัดนครราชสีมา และในช่วงเทศกาลกินเจยังจัดให้มีสุดยอดอาหารเจรสชาติอร่อยมาบริการภายในงานด้วย
เสิร์ฟที่ 2 ของฝากถูกใจ เอสเอ็มอีแบงก์ ได้ขนสินค้าดีเด่นจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยมาลดราคากระหน่ำ เช่น จักรยานไฟฟ้า ในราคาที่ต้องแปลกใจ ผ้าซิ่นตีนจกจากอุตรดิตถ์ ผลิตภัณฑ์ทองเหลืองจากจังหวัดอุบลราชธานี รวมทั้งยังมีสินค้านวัตกรรม เช่น อ่างล้างหน้าหินอ่อนสังเคราะห์ จีวรกันยุง พร้อมทั้งยังได้พบกับสินค้าจากซุปตาร์ดาราที่จะมาออกร้าน อาทิ น็อต วรฤทธิ์ ป๋อ ณัฐวุฒิ และบอย พิษณุ นอกจากนี้ จะพบสินค้าที่ขนมาจำหน่ายในราคาต่ำกว่าทุน เช่น ไข่ไก่ น้ำมัน ข้าวสาร น้ำตาลทราย เป็นต้น
พลเอกประยุทธิ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมงานด้วยในวันแรก
เสิร์ฟที่ 3 เงินทุนหลากหลาย มีเงินสะพัดพร้อมจัดเต็ม 102,005 ล้านบาท โดยเอสเอ็มอีแบงก์ พร้อมให้บริการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 4% ตามนโยบายรัฐบาลที่ช่วยผู้ประกอบการ SMEs วงเงิน 1 แสนบาท ให้ยื่นกู้ได้ภายในงาน เติมทุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ในโครงการร่วมลงทุน วงเงิน 2 พันล้านบาท และสร้างอาชีพสร้างรายได้ ขณะเดียวกันยังมีกองทุนสร้างเถ้าแก่ใหม่ 4 ล้านบาทที่พร้อมสนับสนุนนักศึกษาที่มีไอเดียเด็ดๆ ในการทำธุรกิจ รายละ 2 แสนบาท รวมถึงมีกองทุนคืนคนดี สู่สังคม 1 ล้านบาท นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมงานจะมีบริการตรวจเครดิตบูโรฟรีด้วยตลอดทั้งงาน
เสิร์ฟที่ 4 ตั้งตัวได้ในงาน เอสเอ็มอีแบงก์ ได้จับมือกับหน่วยงานพันธมิตรในการให้ความรู้และคำปรึกษาแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ SMEs จากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( สสว.) ที่จะมาช่วยเรื่องการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ และยังมีกระทรวงพาณิชย์ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. และ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมมาให้คำปรึกษาแนะนำในด้านต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ผู้มาร่วมงานนี้จะมีโอกาสในการเรียนรู้การสร้างตลาดรับคำปรึกษาด้านการออกแบบโลโก้ และการทำแพคเกจจิ้งให้ติดตลาด และยังได้ฝึกอาชีพจากสถาบันชั้นนำ เช่น สอนทำซูชิ ทำวุ้นแฟนซี ทำร้านกาแฟ และมีธุรกิจแฟนไซน์ ให้ผู้สนใจทำธุรกิจมาติดต่อไปสร้างอาชีพในราคาไม่เกิน 2 แสนบาท
งานสุดยอด SMEs ของดีทั่วไทย ที่เอสเอ็มอีแบงก์จัดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นการครบเครื่องเรื่องเงินทุนสำหรับ SMEs ครบเครื่องเรื่องช็อป และครบเครื่องเรื่องแจก โดยตลอดงานมา ทุกวันมีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัล โดยมีมูลค่าของรางวัลกว่า 3 แสนบาท