เปิดตัวศาลาไทยสุดยิ่งใหญ่งานมหกรรม ‘Western China International Fair’
เปิดตัวศาลาไทยสุดยิ่งใหญ่ในงานมหกรรม Western China International Fair ณ นครเฉิงตู
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วย นายเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ร่วมเปิดตัวศาลาไทยสุดยิ่งใหญ่ในงานมหกรรม Western China International Fair (WCIF) ครั้งที่ 19 ณ นครเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวน ซึ่งในปีนี้ ไทยได้รับเชิญเป็นประเทศเกียรติยศ และได้ออกแบบและสร้างสรรค์พื้นที่ศาลาไทย ภายใต้ธีม Open. Connect. Balance. เพื่อสานต่อจากการเป็นเจ้าภาพเอเปคที่กรุงเทพฯ เมื่อปีที่ผ่านมา
บุคคลสำคัญที่เดินทางมาร่วมงานฯ จากประเทศไทย อาทิ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฏร์ธานี นางน้ำฝน บุณยะวัฒน์ รองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบุคคลสำคัญของจีนที่ร่วมพิธีเปิดศาลาไทย เช่น นายหวัง เสี่ยวฮุย เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลเสฉวน นายหวง เฉียง รองเลขาธิการพรรคและผู้ว่าการมณฑลเสฉวน นายหวัง โซ่วเหวิน รองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ผู้ช่วยรัฐมนตรีและผู้แทนการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จีน นายกัว เหว่ย รองเลขาธิการคณะมนตรีรัฐกิจแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมเป็นสักขีพยาน สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างไทยและจีน ผ่านงาน WCIF ในครั้งนี้
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงหอการค้าไทยในจีน และสมาพันธ์ SME ได้นำคาราวานธุรกิจสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว การศึกษา การแพทย์และสุขภาพจากไทย รวมกว่า 70 รายร่วมแสดงศักยภาพของไทยในพื้นที่ 780 ตรม.
ศาลาไทยยังได้แสดง Soft Power ของไทย โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์และมหาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานีได้นำชุดการแสดงศิลปะวัฒนธรรมอันดีของไทยมาจัดแสดงตลอดงาน ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ชมที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง
ทั้งนี้ งาน WCIF ถือเป็นงานมหกรรมแสดงสินค้าที่สำคัญที่สุดของภูมิภาคตะวันตกของจีน และเสฉวนถือเป็นมณฑลเศรษฐกิจใหญ่ในภูมิภาค โดยมีประชากรมากกว่า 80 ล้านคน และเศรษฐกิจเติบโตแรงอย่างมีเสถียรภาพ จึงเปี่ยมไปด้วยศักยภาพทางธุรกิจของสินค้าและบริการของไทยในตลาดจีน ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในการจัดแสดงธุรกิจไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจีนในยุคหลังโควิด
