วี พร็อพเพอร์ตี้ฯส่ง “เวอร์เทียร์ สุขุมวิท”
ลงตลาดคอนโดฯหรูติดBTSพระโขนง

“วี พร็อพเพอร์ตี้ฯ”  เปิดตัว “เวอร์เทียร์ สุขุมวิท” (Vertier Sukhumvit ) คอนโดมิเนียมระดับ Luxury ติดสถานีรถไฟฟ้า “พระโขนง”  ชูทำเลเด่นติดสถานีรถไฟฟ้า ดีไซน์หรู ราคาไม่แพง เหมาะแก่การซื้อหา  พุ่งเป้ากลุ่มลูกค้า เรียลดีมานด์หรือกลุ่มนักลงทุน ขายหรือปล่อยเช่าง่าย ปล่อยค่าเช่าได้ถูก ราคาเริ่มที่ 180,000 บาทต่อตารางเมตร หรือเริ่มต้นที่ 5,000,000 บาทเศษ   พร้อมเปิดPre-Sales วันที่ 16-17 ก.พ.นี้  มีส่วนลดให้ 500,000 บาท เตรียมเปิดโครงการใหม่ช่วงปลายปีใกล้ BTS ทองหล่อ และมุ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ติด 1 ใน 10 ของประเทศภายในปี 2565 หรือภายใน 3 ปี

นายพรชัย เลิศอนันต์โชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท วี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ V Property เปิดตัว โครงการใหม่ล่าสุด “เวอร์เทียร์ สุขุมวิท” (Vertier Sukhumvit ) คอนโดมิเนียมระดับ Luxury ติดสถานีรถไฟฟ้า “พระโขนง” อีกทำเลเด่นบนถนนสายสุขุมวิท  ที่กำลังก้าวสู่บริบทความเป็นเมืองใหม่ที่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเดินทาง เรื่องของไลฟ์สไตล์ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน  พร้อมเปิดให้จองห้องภายในงาน Exclusive Pre-Sales ในวันที่ 16-17  กุมภาพันธ์ 2562

นายพรชัยเปิดเผยว่า  ถนน “สุขุมวิท”  ที่มีแนวรถไฟฟ้าหลักสายสีเขียว เป็นถนนที่สะท้อนถึงความทันสมัย แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ ชาวต่างชาติรู้จัก ถือว่าเป็นทำเลที่ต้องจับตามองตลอดเวลาในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะย่านใจกลางสุขุมวิทอย่างพระโขนง  โดยภาพรวมการพัฒนาของวงการอสังหาริมทรัพย์ ในปัจจุบันพบว่า ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมนั้นเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับความต้องการ (demand) ของผู้ซื้อที่ขยับเพิ่มขึ้นตามอย่างต่อเนื่องตามแนวรถไฟฟ้า มีการขยายการพัฒนาออกไปจากบริเวณใจกลางสุขุมวิทอย่าง อโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัยไปสู่ “พระโขนง” ทำเลกึ่งกลางที่อดีตเคยถูกมองข้าม

สำหรับ V Property   กำหนดยุทธศาสตร์เน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเฉพาะทำเลศักยภาพ ใจกลางเมืองเเละเน้นการพัฒนาที่ดินเฉพาะแปลงที่ หายากเท่านั้นอย่างเช่น บริเวณรถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือ สายสุขุมวิทเป็นหลัก ตั้งใจพัฒนาโครงการโดยเน้นจุดเด่นของทำเล และราคาที่สมเหตุสมผล สามารถแข่งขันในตลาดได้ มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างพันธมิตรและคู่ค้าในด้านการร่วมทุน สนับสนุนการขายและบริการหลังการขาย รวมถึงกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและบริหารงานอาคารด้วย

นายพรชัยกล่าวว่า  “ในโซน Mid Sukhumvit  นับว่า เป็นจุดศูนย์กลางแห่งการเชื่อมต่อถนนหลักที่สำคัญเข้าสู่ใจกลางย่านธุรกิจชื่อดังมากมายของถนนสุขุมวิทตอนกลางกับตอนปลาย ที่สามารถเชื่อมไปสู่ทำเลอื่นด้วยถนนเส้นสำคัญๆ ไม่ว่าเป็นสุขุมวิท 71 ที่เชื่อมไปยังถนนเพชรบุรี ถนนรามคำแหง ถนนพัฒนาการ หรือพระราม 9 หรือหากวิ่งเส้นพระราม 4 ก็เข้าสู่ถนนสีลม สาทรได้ และที่สำคัญยังเป็นจุดเชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาในอนาคต”

ด้วยศักยภาพของทำเลใจกลางสุขุมวิทที่มี Demand สูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี บริษัทฯจึงเลือกทำเลติด BTS สถานีพระโขนง ลงทุนพัฒนาโครงการ เวอร์เทียร์ สุขุมวิท  ซึ่งเป็นโครงการแนวรถไฟฟ้าโครงการที่ 4 ของบริษัท     โดยเป็นคอนโดมิเนียม ไฮไรส์ขนาด 31 ชั้น มูลค่าโครงการ 1.8 พันล้านบาท สร้างด้วยคอนเซ็ปต์ขายง่าย ซื้อแล้วปล่อยขายหรือปล่อยเช่าง่าย หรือเป็นมรดกสำหรับลูกหลาน สมกับชื่อโครงการที่หมายถึงเพชรเม็ดงาม ที่มีการประมูลในยุโรป

“เพชรเป็นวัตถุมีค่า สัญลักษณ์ของความหรูหรามีค่าแก่การซื้อหาสะสม ส่งต่อให้ลูกหลาน   เหมือนโครงการนี้ที่เป็นระดับซูเปอร์ลักเชอรี่ มีการออกแบบอย่างดีและใช้วัสดุ ผลิตภัณฑ์อย่าง เช่น ชุดสุขภัณฑ์นำเข้าจากเยอรมนี ในขณะที่มีราคาขายไม่แพง  โดยกำหนดราคาขายเริ่ม 180,000 บาทต่อตารางเมตร หรือเริ่มต้นที่ 5,000,000 บาทเศษเท่านั้น”

โครงการเวอร์เทียร์ สุขุมวิท  ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 1 ไร่ ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนง ใกล้กับจุดเชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา (วัชรพล-พระโขนง-สะพานพระราม 9-ท่าพระ) ในอนาคตด้วย เดินทางด้วยรถยนต์ก็สะดวกเพราะที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้กับทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษฉลองรัช โครงการมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 2 ปี 2564 (ค.ศ.2021)

โครงการถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์  “RARE COLLECTIBLE LOCATION” เป็นแนวคิดการพัฒนาที่พักอาศัย บนทำเลที่หายากและน้อยคนนักที่จะได้เป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมหรูทำเลติดถนนสุขุมวิทและสถานีรถไฟฟ้าใจกลางเมือง ผสานการออกแบบเน้นความเป็นส่วนตัวสูง และความสะดวกสบายของผู้พักอาศัยทั้งเรื่องการเดินทาง ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการเลือกใช้ชีวิตแบบคนเมืองอย่างแท้จริง แบ่งชั้นพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 4-28 ชั้นส่วนกลางอยู่ชั้น 1-3 และชั้น 29-30 เป็นสวนลอยฟ้า และสระว่ายน้ำ

ห้องชุดแบ่งเป็น 3 แบบดังนี้

• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28 – 42 ตร.ม. จำนวน 183 ยูนิต
• แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 48 – 52 ตร.ม. จำนวน 38 ยูนิต
• แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 86 ตร.ม.จำนวน 6 ยูนิต (สามารถจดทะเบียนบริษัทได้)

พื้นที่ส่วนกลางเน้นตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมียม และมีสไตล์โดดเด่นสะท้อนเอกลักษณ์ของผู้อยู่อาศัย ประกอบไปด้วย Atelier Lobby Lounge, Business Meeting Lounge, Sky Aquarium Pool, Jacuzzi และ Pool Terrace, Vertical Oasis & Pinnacle Pavilion, Crystal Fitness เป็นต้น  ไม่แออัดด้วยจำนวนยูนิตพักอาศัยที่น้อยเพียง 6-10 ห้อง ต่อ 1 ชั้น

นอกจากนี้ทั้งโครงการยังออกแบบให้ทุกยูนิตเป็นแบบ “Single  Loaded Corridor หรือไม่มีห้องตรงข้าม” เพื่อเน้นความเป็นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบให้แก่ผู้ที่ได้ครอบครองห้องชุด ซึ่งโครงการให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

“จุดเด่นของโครงการคือ อยู่ติดบีทีเอสพระโขนง  ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่ ออกแบบห้องไม่ใหญ่มาก เพดานสูง 2.7 เมตรทำให้ไม่อึดอัด  พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมออโตเมทิค ปาร์คกิ้ง ที่จอดรถอัจฉริยะ มีระบบนำรถจอดในช่องที่ว่าง มีห้องประชุมบริการลูกบ้าน มีพื้นลายไม้ทำให้เหมือนใกล้ชิดธรรมชาติ และอื่น ๆ อีกมากมาย”

นายพรชัยกล่าวต่อว่า เน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่ม “เรียลดีมานต์”  หรือผู้ที่ต้องการเข้าอยู่อาศัยจริงหรือเป็นการลงทุน ที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต  หรือหากจะปล่อยเช่า ยังสามารถในราคาถูกกว่าเจ้าอื่นได้เพราะซื้อมาด้วยราคาที่ถูกกว่า และด้วยศักยภาพของทำเลและการออกแบบโครงการ ที่ใส่ใจทุกรายละเอียดเน้นความเรียบหรู และการใช้งานได้อย่างลงตัว ทำให้มีลูกค้าส่วนหนึ่งมาจากฐานลูกค้าเก่าที่มี Brand Loyalty กับ V Property และอีกส่วนหนึ่งเป็นลูกค้าใหม่ซึ่งก็มีลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยภาพรวมในขณะนี้มีผู้สนใจจับจองห้องในโครงการแล้วประมาณ 60% จีน ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ที่มีการตอบรับดีมาก

ในวันที่ 16-17 ก.พ.นี้ โครงการ เวอร์เทียร์ สุขุมวิท จัดงาน Exclusive Pre-Sales พร้อมเปิดให้จองห้องภายในงาน ซึ่งเหลือไม่มากแล้ว โดยพร้อมโอนในปี 2564  ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนรับส่วนลด 500,000 บาท ที่www.vertierbangkok.com หรือเข้าชมโครงการ ณ Vertier Sales Gallery รถไฟฟ้าสถานีพระโขนงทางออกประตู 2 เพียง 50 เมตร

“ผมมั่นใจว่า โครงการ เวอร์เทียร์ แค่คุณได้เป็นเจ้าของก็ถือว่าคุ้มค่าที่สุดแล้ว ทำเลติดสถานีแบบนี้ถือว่าหายากมาก ที่สำคัญราคาสมเหตุสมผล เมื่อเทียบกับโครงการเปิดใหม่ๆเมื่อปีที่ผ่านมา” 

สำหรับโครงการในอนาคตตั้งเป้าพัฒนาอีก 2-3 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 5,400 ล้านบาท เน้นย่านมิดสุขุมวิท ราคาเหมาะสม สามารถอยู่ในตลาดได้  และเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ในช่วงปลายปี 2562  และมุ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ติด 1 ใน 10 ของประเทศภายในปี 2565 หรือภายใน 3 ปี

ส่วนโครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้ มีช่วงปลายปีราวไตรมาส 3 เป็นโครงการใกล้สถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ ซึ่งต้องคอยติดตามกันต่อไป สำหรับผู้ที่สนใจคอนโดมิเนียมหรู ราคาไม่แพง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 1298 หรือที่ www.facebook.com/VPropertyDevelopmentTH