“Zipmex” แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ประกาศระดมทุน Series B จากกรุงศรี ฟินโนเวต มุ่งหน้าบุกตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทวีปเอเชียแปซิฟิก

Zipmex แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ประกาศการระดมทุน Series B จากกรุงศรี ฟินโนเวต มุ่งหน้าบุกตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในทวีปเอเชียแปซิฟิก นับเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทร่วมลงทุน (CVC) ในเครือธนาคาร และ Venture Capitalists ระดับโลกได้ร่วมลงทุนในแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล ปัจจุบัน Zipmex ดำเนินการใน ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย และได้ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนทั้งในภูมิภาคเอเชีย และต่างประเทศ เข้ามาร่วมลงทุนในรอบการระดมทุนนี้อย่างล้นหลาม

“Zipmex” แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ประกาศการระดมทุนรอบ Series B วันที่ 31 สิงหาคม 2564 โดยการร่วมมือกับบริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุน (CVC) ในเครือธนาคารกรุงศรีฯ รวมถึงบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) ที่ได้ประกาศเข้าร่วมลงทุนก่อนหน้านี้

นอกจากนักลงทุนที่กล่าวมาข้างต้นแล้วยังมี MindWorks Capital ซึ่งเป็นบริษัทจากฮ่องกง รวมถึง ผู้นำในการระดมทุนรอบ Series A ที่ผ่านมา Jump Capital ผู้บริหารเงินร่วมลงทุนในสหรัฐฯ ร่วมลงทุนในรอบนี้ด้วย

ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานผู้บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Zipmex Thailand เปิดเผยว่า “การระดมทุนในรอบนี้มีมูลค่า 41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเป็นเงินมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท) ทำให้ Zipmex มีมูลค่าหลักหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ และกำลังมุ่งไปสู่การเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลักพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไม่ช้านี้ ซึ่งเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับกลุ่มนักลงทุนหลากหลายราย รวมถึงผู้ที่ยังไม่เปิดเผย ณ ตอนนี้”

ทั้งนี้ ถือได้ว่า นับเป็นครั้งแรกที่บริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคาร และ Venture Capitalists ระดับโลกได้ร่วมลงทุนในแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยกัน จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจน และตอกย้ำว่าสินทรัพย์ดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทรวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันมากขึ้น

“การระดมทุนรอบนี้เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา ไม่ได้เพียงแต่แสดงถึงความถูกต้องของรูปแบบธุรกิจของเรา และแนวทางในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเท่านั้น แต่การระดมทุนรอบนี้นั้นยังแสดงถึงศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะกลายเป็นส่วนสำคัญของไลฟ์สไตล์ของเรา” ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานผู้บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Zipmex Thailand กล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับกลุ่มนักลงทุนที่หลากหลาย ในขณะที่เรายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”

การระดมทุนรอบนี้ถูกขับเคลื่อนโดยการร่วมมือกับบริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุน (CVC) ในเครือธนาคารกรุงศรีฯ รวมถึงบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) ที่เข้าร่วมการลงทุนในรอบนี้ด้วย

โดย Zipmex คือแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเพียงแห่งเดียวที่ดำเนินการ และปฏิบัติตามกฎหมายใน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย โดยภารกิจของ Zipmex คือการมุ่งมั่นเปลี่ยนการลงทุนให้เข้าใจง่าย เพื่อให้ทุกคนลงทุนได้ทุกที่ ทุกเวลา บนแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ที่เข้าถึงง่าย โดยผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงบริการนวัตกรรมทางการเงินที่หลากหลาย ตั้งแต่ปีที่แล้วที่ได้มีการเปิดตัวในประเทศไทย จนถึงปัจจุบันแพลตฟอร์ม Zipmex ได้มีผลรวมของปริมาณการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

กรุงศรี ฟินโนเวต ลงทุนในสตาร์ทอัพตั้งแต่ Series A เป็นต้นไป โดยครอบคลุมฟินเทคอีกหลายสาขา โดยมีการเชื่อมต่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ากับธุรกิจของกรุงศรี อาทิ บล็อกเชน สินเชื่อ อีคอมเมิร์ซ ประกันภัย และการโอนเงินข้ามพรมแดน นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในอีกหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ บริษัท Grab, Flash Express, Synqa และ Finnomena

“กรุงศรี ฟินโนเวต ให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยี และนวัตกรรมทางการเงินแห่งอนาคตในทุก ๆ ด้านเพื่อตอบโจทย์การใช้งานยุคใหม่ โดยเชื่อว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้าทันสมัยจะเป็นตัวขับเคลื่อนสังคม และเศรษฐกิจของประเทศที่สำคัญในระยะยาว” คุณแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าว “การร่วมมือระหว่างกรุงศรี ฟินโนเวต และ Zipmex มาจากความตั้งใจที่จะผลักดันการพัฒนา และส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงิน และเทคโนโลยี โดยเรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การได้ร่วมลงทุนกับ Zipmex แพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ชั้นนำระดับภูมิภาคที่มีการดำเนินงานถึง 4 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิกนั้น จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับเทคโนโลยีทางการเงิน เชื่อมโยงธุรกิจต่าง ๆ

โดย กรุงศรีฯ เชื่อมั่นว่าจะเป็นโอกาสที่สำคัญในการเดินหน้าสู่ธุรกิจหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เสริมสร้างความแข็งแกร่งของ Ecosystem และเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่สำคัญในการเป็นรากฐานของระบบการเงินดิจิทัลแห่งโลกอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น การที่กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำของโลกที่มีเครือข่ายกว่า 50 ประเทศทั่วโลก จะเป็นจุดแข็งที่จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือในอนาคตระหว่างกรุงศรี และ Zipmex ในภูมิภาคอาเซียนและในระดับโลกได้เป็นอย่างดี”

ดร.เอกลาภ กล่าวว่า “Zipmex เป็นมากกว่าการเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่รวดเร็ว คล่องตัว และปลอดภัย Zipmex ยังมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มวิธีที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับ และใช้สินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างสะดวก ซึ่งมีโทเค็น ZMT ช่วยสนับสนุนบริการเหล่านี้อยู่ โดยผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนประกอบด้วย ZipUp โปรแกรมการฝากสินทรัพย์ดิจิทัลที่ให้โบนัสรายวันสูงสุดถึง 8% และ ZipLock โปรแกรมการฝากประจำสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลที่ให้โบนัสสูงสุดถึง 14% สำหรับผู้ถือ ZMT

นอกจากนี้ ยังมี ZipSpend ในหลาย ๆ ประเทศ ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ในการชำระด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นอำนวยความสะดวกต่อการทำธุรกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแลกซื้อรถยนต์ ศิลปะ หรืออสังหาริมทรัพย์ โดยเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด Zipmex Card ซึ่งเป็นบัตรชำระเงินรูปแบบใหม่ที่จะเปิดตัวในปลายปีนี้ โดยได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Visa เปิดโอกาสให้ลูกค้ามีอิสระในการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลกับร้านค้ากว่า 70 ล้านราย ผ่านทางเครือข่ายการชำระเงินทั่วโลกของ Visa ที่มีความรวดเร็ว เชื่อถือได้ และปลอดภัย

Zipmex ได้เปิดตัว ZipWorld เวอร์ชันเบต้า โลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ ไลฟ์สไตล์สุดพิเศษ และประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟไม่เหมือนใครด้วย ZMT และ ยังมี ZLaunch แพลตฟอร์มที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงโทเค็นดิจิทัลเพื่อการลงทุนได้ก่อนใคร ซึ่งในอนาคตอันใกล้จะมีการขยายไปยังตลาดที่ให้บริการในต่างประเทศอีกสามแห่ง นอกจากนี้ Zipmex ยังได้มีการวางแผนที่จะลิสต์ Non-Fungible Token (NFT) ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้บน ZipWorld อีกด้วย

“เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับการที่ธนาคารแห่งชาติทั่วโลกกำลังเร่งศึกษาเงินสกุลดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศ (Central Bank Digital Currencies “CBDC”) รวมถึงความต้องการในการสร้างรายได้ และการชำระในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกันกับ ZipSpend และ Zipmex Card ที่ตั้งเป้าปฏิวัติการชำระเงินทั่วโลกเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งาน ในขณะที่โปรแกรม ZipUp, ZipLock หรือแพลตฟอร์ม ZipWorld และ ZLaunch มอบโอกาสในการสร้างรายได้แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน” ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Zipmex Thailand กล่าวเสริม “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เราจะเปิดตัวนั้น เรามั่นใจว่าจะปฏิบัติตามกฏข้อบังคับ และหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ”

โดยการได้รับการลงทุนในครั้งนี้ และแผนการดำเนินการที่หนักแน่นทำให้ Zipmex สามารถเติบโต และพัฒนาแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนทุกท่านพร้อมทั้งพัฒนา Ecosystem ของสินทรัพย์ดิจิทัลในทวีปเอเชียแปซิฟิกต่อไป เพื่อก้าวไปสู่การเป็นยูนิคอร์นตัวต่อไปของเอเชีย

ทั้งนี้ Zipmex หนึ่งในแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียแปซิฟิก และเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนเพียงแห่งเดียวที่ได้รับใบอนุญาต และปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างครบถ้วน ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐในประเทศไทย ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย Zipmex ช่วยให้ทุกคนเชื่อมต่อการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย ปลอดภัย และเชื่อถือได้

Zipmex นำเสนอผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมชั้นนำในอุตสาหกรรมให้แก่ลูกค้าเกือบ 1 ล้านคน และมีการซื้อขายบนแพลตฟอร์มแล้วกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และภารกิจต่อไปคือ การทำให้ผู้ใช้อีกพันล้าน เข้าถึงวิธีการใหม่ ๆ เพื่อสร้างความมั่งคั่ง โดยจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชั้นนำในตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ ZipLock และ ZipUp รวมถึงแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล

Zipmex มุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้า นักลงทุน เครือข่ายของลูกค้ารายบุคคล ครอบคลุมไปถึงการเป็นพันธมิตรกับร้านค้ารายย่อย และสถาบันต่าง ๆ โดยมุ่งมั่นที่จะให้ความรู้ และสร้างความตื่นเต้นแก่ผู้คน ด้วยความเป็นไปได้ในโลกดิจิทัล เรียกได้ว่า Zipmex คือผู้นำรุ่นต่อไปในการสร้างความมั่งคั่งด้วยคริปโทฯ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการเงินสำหรับทุก ๆ คน

#ZipmexThailand

#ZMT

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.zipmex.com

ปัจจุบัน Zipmex ดำเนินการใน ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย และได้ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนทั้งในภูมิภาคเอเชีย และต่างประเทศ เข้ามาร่วมลงทุนในรอบการระดมทุนนี้อย่างล้นหลาม