“วิลเลรอย” ตั้งเป้าปี 60โต5%
ร่วมโปรเจคอสังหาฯยักษ์ใหญ่
“วิลเลรอย แอนด์ บอค” สุขภัณฑ์หรูจากเยอรมัน เตรียมตีตลาดสุขภัณฑ์ไฮเอน เน้นคอนเซปดีไซน์ล้ำ ผสานเทคโนโลยีนำสมัย ด้วยคุณภาพระดับตำนานที่มีประวัติยาวนานกว่า 270 ปี เตรียมอัดฉีดงบการตลาดทั้งปีที่ 50 ล้านบาท เพื่อประชาสัมพันธ์ และการทำโปรโมชั่น รวมถึงด้านสื่อออนไลน์ ตั้งแฟนเพจของ วิลเลรอยแอนด์ บอค ในภาษาไทย เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างใกล้ชิด โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าด้านอสังหา 70% ลูกค้าที่เข้ามาเลือกซื้อเอง 30% ตั้งเป้าเติบโตทั่วโลก 3-5% พร้อมเปิดโชว์รูมแห่งล่าสุดที่แกรนด์ โฮมมาร์ท บางนา และ DM Home ทองหล่อ ด้วยงบกว่า 10 ล้านบาท มุ่งเดินหน้าการผลิตเต็มสูบรองรับบิ๊กโปรเจคกลุ่มอสังหาฯ และลูกค้าทั่วเอเชีย
นางเจนนี่ ลู บันนิ่ง (Jenny Looi Banning) กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิลเลรอย แอนด์ บอค จำกัด ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค เปิดเผยว่า วิลเลรอย แอนด์ บอค (Villeroy and Boch) เป็นแบรนด์สุขภัณฑ์คุณภาพระดับตำนานจากเยอรมันที่มีประวัติยาวนานกว่า 270 ปี โดยเริ่มจากธุรกิจเซรามิค และกระเบื้อง ก่อนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสุขภัณฑ์จนกลายเป็นผู้นำด้าน ‘Total Bathroom Solution’ มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกครบวงจร พร้อมการบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน ซึ่งได้รับความไว้วางใจในคุณภาพและบริการจากกว่า 125 ประเทศทั่วทุกมุมโลก
สำหรับการลงทุนของ “วิเลรอย แอนด์ บอค” ในประเทศไทยนั้น แบรนด์ของเรามีตำนานมาอย่างยาวนาน โดดเด่นเรื่องความเป็นสุขภัณฑ์ระดับไฮเอน มีคุณภาพสูง และนวัตกรรมที่ล้ำหน้า โดยในเอเชียถือเป็นอีกหนึ่งตลาดสำคัญที่มีศักยภาพสูง เราจึงได้เลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิต ก่อตั้งเมื่อปี 2551 ภายใต้ชื่อ “บริษัท วิลเลรอย แอนด์ บอค ประเทศไทย” โดยเน้นการผลิตและส่งออกให้ภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก
“ก่อนหน้านี้ แบรนด์ของเราเน้นหนักไปที่การส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชีย มากกว่าการวางขายในไทย แต่ในปัจจุบันเนื่องจากมีโครงการอสังหาฯระดับ Luxury เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้เราเริ่มได้รับความไว้วางใจเลือกใช้ในโครงการชั้นนำอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งการออกสินค้าใหม่ๆ ครอบคลุมทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ของคนไทย ทำให้เรามีสินค้าสำหรับห้องน้ำครบวงจร ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าตั้งแต่ระดับกลางถึงระดับบน ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มักเน้นเรื่องชื่อเสียง คุณภาพ และงานดีไซน์ของสินค้ามากกว่าปัจจัยด้านราคา ทำให้ตั้งแต่ปี 2558-2559 เป็นต้นมาเรามียอดขายเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด คุณเจนนี่ ลู บันนิ่ง กล่าวถึงตลาดสุขภัณฑ์ในไทย
นางเจนนี่ ยังกล่าวว่า “สำหรับในระดับโลก วิลเลรอย แอนด์ บอค กรุ๊ป ก็ยังสามารถเติบโตได้สูงจากเดิมกว่า 4 เปอร์เซนต์ ถึงแม้ในปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกจะค่อนข้างผันผวนอยู่มาก ซึ่งในปี2560นี้ วิลเลรอย แอนด์ บอค กรุ๊ป ตั้งเป้าการเติบโตโดยรวมระดับโลกอยู่ที่ 3-5 เปอร์เซนต์ โดยเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถทำได้ตามยอดที่กำหนดเพราะในปีนี้เรายังมีโปรเจคร่วมกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนอีกหลายโครงการ เพราะวิลเลรอย แอนด์ บอคเป็นสุขภัณฑ์ระดับไฮเอน มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและการันตีด้วยรางวัลระดับโลกมากมาย ทำให้ผลิตภัณฑ์ของวิลเลรอย แอนด์ บอค ได้รับความไว้วางใจจากโครงการชั้นนำ บุคคลที่มีชื่อเสียง สถานที่สำคัญต่างๆทั่วทุกมุมโลก
“ในปีนี้เรามีแผนจะเปิดโชว์รูมเพิ่มอีกสองแห่งได้แก่ที่แกรนด์ โฮมมาร์ท บางนา และ DM Home ทองหล่อ ด้วยงบลงทุนรวมกว่า 10 ล้านบาท โดยโชว์รูมที่ “แกรนด์ โฮมมาร์ท บางนา” มีพื้นที่กว่า 230 ตร.ม. และที่ DM Home ทองหล่อ อีกว่า 60 ตร.ม. เน้นเจาะกลุ่มระดับลูกค้าระดับกลางขึ้นไป โดยมีมุมการออกแบบห้องน้ำในรูปแบบต่างๆ พร้อมทั้งมุมที่ลูกค้าสามารถทดสอบประสิทธิภาพสินค้าได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ลูกค้าสามารถเยี่ยมชมโชว์รูมอื่นๆของเราได้ทั้งที่ คริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ (CDC) หรือที่ เชียงใหม่ ต.เคหะภัณฑ์, ฟ้าทวีพร เกาะสมุย, และโฮมมาร์ทพัทยา ”
สำหรับแผนในการทำการตลาดในปีนี้ คุณเจนนี่ ลู บันนิ่ง ได้เปิดเผยว่า “สำหรับประเทศไทย เรามีแผนที่จะทำการตลาด และโปรโมทแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยเราทุ่มงบให้กับการทำการตลาดทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์ และการทำโปรโมชั่นตลอดทั้งปี มูลค่า 50 ล้านบาท โดยส่วนมากลูกค้าเป็นกลุ่มตลาดบน และเป็นการขายผลิตภัณฑ์ให้กลุ่มอสังหา 70% ลูกค้าที่เข้ามาเลือกซื้อเอง 30% พร้อมทั้งรุกการประชาสัมพันธ์ในสื่อออนไลน์มากขึ้น โดยมีการตั้งแฟนเพจของ วิลเลรอยแอนด์ บอค ในภาษาไทย เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งในปีนี้เรายังเร่งขยายกำลังการผลิตโดย เพื่อตอบสนองความต้องการที่สูงขึ้นอย่างมาก พร้อมทั้งเพิ่มบุคลากรเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้างานโครงการให้มากยิ่งขึ้น”
ผู้ที่สนใจสัมผัสสุขภัณฑ์คุณภาพเหนือระดับ กับประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 270 ปี สามารถชมสินค้าได้ที่โชว์รูม “วิลเลรอย แอนด์ บอค” ทุกสาขา รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.villeroy-boch.com หรือ โทร. 02206-3400
