‘ณ วรางค์ แอสเซท’ จูง​ Capital one
ผุด​ ‘ณ วีรา พหลฯ8 “เคาะ1.1แสน

“ณวรางค์ แอสเซทฯ” ดีเวลลอปเปอร์ที่มีแลนด์แบงก์ในไพร์มเอเรียล ชูกลยุทธ์เจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ โอนได้ สร้างที่อยู่อาศัยให้ลูกค้าอยู่จริง เผยทุกโลเคชั่น ต้องไม่เสี่ยง ลั่นแผนธุรกิจยังเหมือนเดิม ระยะ3ปี ผุดโครงการรวมกว่า 5,000 ล้านบาท หวังปั้นแบรนด์ “ณ วีรา” ติดตลาด พร้อมจับมือโบรกฯชั้นนำ Capital one ขนโครงการ ณ วีรา พหลฯ-อารีย์ ซอย8 ออกบูธงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ครั้งที่ 41 ก่อนเดินเครื่องสิ้นปีหรือต้นปี63 ผุดโครงการคอนโดฯทำเลเจริญนคร มูลค่า 1,200-1,300 ล้านบาท

นายอภิภู พรหมโยธี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ณวรางค์ แอสเซท จำกัด

นายอภิภู พรหมโยธี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ณวรางค์ แอสเซท จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีที่ดิน(แลนด์แบงก์) อยู่ในทำเลไพร์มเอเรียล เปิดเผยถึงภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานครยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จากแหล่งงานต่างๆ สถาบันการศึกษายังคงอยู่ในเมือง ทำให้เกิดความต้องการที่จะอยู่อาศัยในเมือง โดยที่ไม่สามารถหนีกรุงเทพฯออกไปได้ แต่โดยภาพรวม ตลาดอสังหาริมทรัพย์คงไม่คึกคักเหมือนแต่ก่อน โดยเฉพาะเรื่องเกณฑ์การควบคุมอัตราส่วนการให้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้านเทียบกับมูลค่าบ้าน (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ถือเป็นยาแรงเกินไป แทนที่จะปล่อยไปก่อนแต่กลับเอาเข็มขัดมารัดให้แน่น

นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด

“นโยบายของบริษัทฯ มุ่งเจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ ต้องเป็นสินค้าที่จับต้องได้ ตรงความต้องการเสมอ ทำเลที่พร้อมกำลังซื้อ โครงการไปเกาะอยู่ในชุมชน ซึ่งการพัฒนาอาจจะอยู่ในทำเลเดิมที่มีคู่แข่งขันได้ แม้แต่ร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ยังมีหลายสาขาในทำเลเดียวกันได้ แสดงว่า ในบริเวณนั้น มีการอยู่อาศัยอยู่จริง รวมถึงต้องมีโรงพยาบาล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ คือ ดีมานด์ และการนำเสนอโครงการของบริษัท ก็เพื่อไปเติมดีมานด์ให้ ทั้งนี้ โลเคชั่นที่เราเลือก เราเลือกเป็น 100 แห่ง ต้องเป็นแปลงที่ไม่มีความเสี่ยง ซึ่งจะไม่มีปัญหาเรื่องถูกปฎิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน” นายอภิภูกล่าว

สำหรับทิศทางธุรกิจของบริษัทฯ จะเติบโตอย่างมั่นคง และยังคงยืนเป้าหมายของแผน 3 ปี (2562-2564) ที่จะเปิดโครงการรวมกว่า 5,000 ล้านบาท ยังอยู่ในวิสัยที่จะเป็นไปตามแนวทางที่ไว้ ในแต่ละปีมูลค่าการเปิดโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับแลนด์แบงก์ที่จะนำพัฒนาโครงการจะเหมาะสมกับรูปแบบใด ซึ่งปัจจุบัน บริษัท ณวรางค์ฯ อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการที่ 3 ภายใต้ชื่อโครงการ “ณ วีรา พหลฯ-อารีย์” ในซอย 8

โดยเป็นรูปแบบคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ ความสูงไม่เกิน 8 ชั้น ราคาขาย 1.1 แสนบาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ขนาดพื้นที่ 30-40 ตร.ม. เจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบความเป็นส่วนตัวมาก จำนวนยูนิตที่ออกมามีเพียง 72 ยูนิต มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท โดยในวันที่ 12-15 กันยายน 2562 บริษัทฯจะนำโครงการ ณ วีรา พหลฯ-อารีย์ ไปร่วมออกบูธในงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ครั้งที่ 41 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน

ในส่วนของโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้พัฒนามาก่อนหน้านี้ ได้แก่ โครงการ “ ณ วรา เรสซิเดนซ์” หลังสวน คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ จำนวน 96 ยูนิต มูลค่าลงทุน 800 ล้านบาท โครงการมีมูลค่าขาย 1,200 ล้านบาท ปัจจุบันได้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้กับผู้ซื้อไปแล้ว 80% คงเหลือ 20% มูลค่าการขาย 300-400 ล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปี 2562 จะโอนห้องชุดได้ครบทั้งโครงการ ปัจจุบันราคาคอนโดมิเนียมปรับขึ้นจากช่วงพรีเซลเมื่อปี 2558 ถึง 13% จากราคา 230,000 บาทต่อตร.ม.เป็น 260,000 บาทต่อตร.ม.

อีกโครงการ คือ ณ วีรา พหลโยธิน ซอย14 เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น จำนวน 78 ยูนิต มูลค่า 250 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท มียอดขายไปกว่า 90% โดยอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คาดจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสแรกปี 2563 และรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อ รวมถึงในแต่ละปี บริษัทยังมีรายได้จากค่าเช่าในส่วนของคอมมูนิตี้มอลล์ใจกลางเมืองภายใต้ชื่อ เดอะ ปอร์ติโก ปีละ 50 ล้านบาท

“การพัฒนาโครงการ จะไม่เน้นการเปิดปีละหลายสิบโครงการ เนื่องจากบริษัทต้องการให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการให้มีคุณภาพและการขาย ซึ่งการทำโครงการคอนโดฯโลว์ไรส์ เป็นนโยบายที่เราวางไว้ เราอยากบริหารสภาพคล่องแบบไม่ทรมานตัวเอง ไม่เน้นมีสต๊อก และด้วยการที่เราเป็นบริษัทขนาดเล็ก หากชกมัดต่อมัดแล้ว เราต้องเลือก ต้องต่าง ต้องทำให้ผู้ซื้อได้อยู่อาศัยจริง”

ด้านความคืบหน้าโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม บนเส้นถนนเจริญนครนั้น จะเป็นโครงการที่มีมูลค่า 1,200-1,300 ล้านบาท เป็นการขยายตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่สร้างโอกาสการเติบโตให้กับบริษัทฯ ซึ่งเป็นแปลงที่ดินใหม่ที่เข้าไปลงทุนมา และกำลังพิจารณาจะเปิดให้ทันปลายปีนี้หรือไปเปิดต้นปี 2563 โดยโครงการได้รับสินเชื่อพัฒนาโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อนึ่ง ทางกระทรวงมหาดไทย มีความชัดเจนในการย้ายที่ตั้งกระทรวง ไปอยู่ที่ใหม่ติดริมน้ำเจ้าพระยา เจริญนคร บนที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ เนื้อที่ 18 ไร่ คาดว่าจะมีการก่อสร้างอาคารสูง 20 ชั้น 4 ตึก ท่าเรือรองรับ 6 กรม มีข้าราชการกว่า 5,000 คนเข้ามาทำงาน ซึ่งจะส่งผลให้บริเวณนี้ เกิดกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้น

ด้านนายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด บริษัทที่ปรึกษาทางด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเมืองไทย รับหน้าที่บริหารการขายโครงการ ณ วีรา พหลฯ-อารีย์ ซอย 8 เปิดเผยว่า จากการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทฯ พบจำนวนสินค้าคงเหลือคอนโดมิเนียม ตั้งแต่เส้นรถไฟฟ้าBTSอนุเสารีย์ชัยสมรภูมิจนถึงรถไฟฟ้าBTSสถานีสะพานควาย ระดับราคาที่ต่ำกว่า 150,000 บาทต่อตร.ม.เหลือน้อยมาก สวนทางกับความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่บริเวณนี้ เนื่องจากมีความสงบ ท่ามกลางความเจริญ และรายล้อมด้วยโรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายแห่ง ร้านค้าต่างๆ เป็นจำนวนมาก รวมถึงสามารถเดินทางได้สะดวก

“คอนโดฯบริเวณซอยอารีย์ พหลโยธินนั้นแตกต่างกับคอนโดฯบริเวณสุขุมวิท ทั้งด้านราคาและไลฟ์สไตล์ จึงเป็นที่นิยมของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการอยู่เอง โดยราคาโครงการ ณ วีรา พหลฯ-อารีย์ ซอย 8 เริ่มต้น 110,000 บาท และที่สำคัญเป็น Private condo จึงมั่นใจว่าจะปิดการขายภายใน2เดือน ซึ่งในวันที่12 -15 กันยายนนี้ได้นำโครงการไปเปิดตัวครั้งแรก ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41 ณ สยามพารากอน ผู้จองในงานได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าใคร “นายวิทย์ กล่าว