ซินโครตรอนร่วม สวพส. ยกระดับ “ข้าวดอย” สู่ Super Food
![](https://www.thinsiam.com/wp-content/uploads/2022/07/1659227205535_640x480.jpg)
สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ใช้แสงซินโครตรอนวิเคราะห์คุณค่าโภชนาการ “ข้าวดอย” ลงลึกถึงระดับโมเลกุล พบบางสายพันธุ์ให้ธาตุเหล็ก-สังกะสีปริมาณสูง บางสายพันธุ์มี “ฟีนอลิก” และ “ฟลาโวนอยด์” สูง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าสายพันธุ์อื่นกว่า 20 เท่า ปูทางสู่การพัฒนา Super Food ทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค และสร้างรายได้แก่กลุ่มชาติพันธุ์บนดอย
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/07/1659227200394_1024x768.jpg)
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/07/1659227197041_1024x768.jpg)
“ข้าวดอย” เป็นข้าวที่ปลูกตามชุมชนของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ บนพื้นที่สูงของประเทศไทย โดยข้อมูลจากสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูงระบุว่า มีข้าวดอยมากกว่า 300 สายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์ก็มีรูปร่างลักษณะของเมล็ด เนื้อสัมผัส และมีรสชาติที่แตกต่างกัน นอกจากนั้นกลุ่มชาติพันธุ์ยังเรียก “ข้าว” แตกต่างกัน เช่น ชาติพันธุ์กะเหรี่ยงเรียกข้าวว่า “บือ” ชาติพันธุ์ละว้าข้าวเรียกว่า “เฮงาะ” ชาติพันธุ์ม้งเรียกข้าวว่า “เบล้” ชาติพันธุ์ลีซอเรียกข้าวว่า “จะ” หรือ “จา” และชาติพันธุ์อาข่าเรียกว่า “แชะ” เป็นต้น
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/07/1659227202633_800x600.jpg)
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/07/1659227205535_640x480.jpg)
คณะนักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน นำโดย ดร.สมชาย ตันชรากรณ์, ดร.วราภรณ์ ตัณฑนุช, ดร.นิชาดา เจียรนัยกูร และ ดร.รัชฎาภรณ์ ทรัพย์เรืองเนตร ร่วมกับ ดร.จันทร์จิรา รุ่งเจริญ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง คัดเลือกข้าวดอย 20 สายพันธุ์ เพื่อศึกษาวิจัยด้วยเทคโนโลยีแสงซินโครตรอนในการจำแนก จัดกลุ่ม และค้นหาสายพันธุ์ที่เป็น SUPERFOOD โดยสามารถจำแนกและจัดกลุ่มข้าวดอยด้วยองค์ประกอบทางชีวเคมี และโครงสร้างโมเลกุลที่เป็นองค์ประกอบของข้าวได้อย่างรวดเร็ว
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/07/1659227208226_640x479.jpg)
ดร.สมชาย ตันชรากรณ์ กล่าวว่า “การใช้แสงซินโครตรอนในการวัดตัวอย่างข้าวนั้น สามารถวัดได้โดยตรง ไม่ต้องใช้สารเคมีสกัดสารสำคัญออกจากเมล็ดข้าว จึงเป็นการช่วยลดความผิดพลาดจากการเตรียมตัวอย่าง และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดกลุ่มข้าว ให้มีความถูกต้องชัดเจน และรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเดิมการจัดกลุ่มข้าวอาศัยคุณลักษณะทางกายภาพเป็นหลัก”
จากการวิเคราะห์ด้วยแสงซินโครตรอนพบว่า ข้าวดอยอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ต่างๆ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และมีไฟโตนิวเทรียนต์ที่จำเป็นต่อร่างกาย และยังพบว่าข้าวดอยบางสายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์เบล้เจ่าของชาติพันธุ์ม้ง จาคูเนเนของชาติพันธุ์ลีซอ และม๊อคก๊อคของชาติพันธุ์ละว้า มีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวปริมาณสูงกว่าสายพันธุ์อื่น ซึ่งมีรายงานว่า กรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดต่างๆ สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีในเลือดได้ เป็นต้น
![](https://hotspotstation111.com/wp-content/uploads/2022/07/1659227210757_1024x767.jpg)
ส่วนข้าวสายพันธุ์แชะโกว้ของชาติพันธุ์อาข่า ข้าวสายพันธุ์เบล้เจ่าและข้าวสายพันธุ์บือหมื่อโพของชาติพันธุ์กะเหรี่ยง มีปริมาณธาตุเหล็กและสังกะสีในปริมาณสูงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ที่ทำการศึกษาพร้อมกัน โดยธาตุเหล็กและสังกะสีที่พบอยู่ในรูปองค์ประกอบอินทรีย์ จึงสามารถดูดซึมง่ายและร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้การตรวจพบที่สำคัญพบว่า ข้าวดอยสายพันธุ์จานูเนเน และสายพันธุ์จาคูเนเน และข้าวดอยอีกสายพันธุ์ที่มีเมล็ดข้าวสีแดงแต่ไม่สามารถระบุชื่อพันธุ์ได้นั้น มีปริมาณ “ฟีนอลิก” และ “ฟลาโวนอยด์” สูงที่สุด ซึ่งมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ถึง 5 เท่า และตรวจพบฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ กว่า 20 เท่า
“งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาเบื้องต้น ยังมีข้าวดอยอีกหลายร้อยสายพันธุ์ที่ยังอยู่ในระหว่างการวิจัย ผลที่ได้จะนำไปสู่ฐานข้อมูลความหลากหลายของพันธุกรรมข้าวดอยที่มีปลูกบนพื้นที่สูงของประเทศไทย เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการคัดเลือกสายพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมกับการส่งเสริมให้แก่ผู้บริโภค เป็นอาหารที่เรียกว่า “SUPERFOOD” ต่อไปในอนาคต และเป็นการขยายโอกาสในเชิงพาณิชย์ให้แก่ชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์สร้างรายได้อย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม” ดร.จันทร์จิรา รุ่งเจริญ กล่าว
เครดิตภาพ – สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน