กรมพัฒน์ฯพัฒนาไม่หยุด
บริการจัดตั้งธุรกิจที่จุดเดียว
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เข้าถึง เข้าใจ ตอบโจทย์ภาคธุรกิจ เดินหน้าปรับปรุงขั้นตอนบริการให้รัดกุม จดทะเบียนมาจุดเดียวจบ!! นิติบุคคลแก้ไขข้อมูลสาขาก็ง่าย และเพิ่มทางเลือกผู้รับรองลายมือชื่อให้มากขึ้น ตั้งใจ…ช่วยธุรกิจไทยประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่าย ชี้ชวนให้นักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุน และย้ำแรงๆ จะสร้างสรรค์และพัฒนาบริการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯได้ลดขั้นตอนการ จดทะเบียนธุรกิจให้สะดวกรวดเร็วขึ้น โดยตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2558 “ผู้รับบริการสามารถจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจและการชำระค่าธรรมเนียมได้ ณ จุดบริการเดียว” จากเดิมเมื่อยื่นเอกสารต่อนายทะเบียนครบถ้วนแล้วจะต้อง เดินไปชำระเงินค่าธรรมเนียมอีกช่องบริการหนึ่งแล้วจึงกลับมาที่นายทะเบียนอีกครั้ง ซึ่งการปรับลดขั้นตอนดังกล่าวลงจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจได้ประหยัดเวลาในการจดทะเบียนธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ การปรับปรุงบริการดังกล่าวครอบคลุมการให้บริการสำหรับคำขอจดทะเบียนธุรกิจทุกประเภทด้วย
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้กรมฯ ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บริการที่เพิ่มความคล่องตัวต่อภาคธุรกิจ มากยิ่งขึ้นใน 2 เรื่องคือ 1) การอำนวยความสะดวกให้นิติบุคคลสามารถยื่นขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมหรือ ยกเลิกสาขาได้โดยระบุเฉพาะสาขาที่จะแก้ไขเท่านั้น จากเดิมที่ต้องระบุสาขาทั้งหมด ซึ่งบริการนี้จะช่วยให้ นิติบุคคลที่ต้องการแก้ไขข้อมูลแต่มีสาขาจำนวนมากไม่ต้องเสียเวลาจัดเตรียมเอกสารหรือลงนามในเอกสารจำนวนมากอีกต่อไป
และ 2) การเพิ่มบุคคลที่นิติบุคคลจะลงลายมือชื่อต่อหน้าได้ (ผู้รับรองลายมือชื่อ) เพิ่มเติม จากเดิมที่มีอยู่ 139,399 คน ให้เพิ่มขึ้นอีก 57,524 คน รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 196,923 คน คิดเป็นจำนวน 1 ต่อ 3 ของผู้รับรองลายมือชื่อต่อจำนวนนิติบุคคลคงอยู่ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 620,000 คน การเพิ่มจำนวน ผู้รับรองลายมือชื่อนี้จะส่งผลให้การจดทะเบียนมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และสร้างทางเลือกมากขึ้นในการหาบุคคลที่จะมารับรองลายมือชื่อ ทำให้ลดระยะเวลาจัดเตรียมเอกสารและค่าใช้จ่ายเนื่องจากสามารถให้บุคคลอื่นเช่น ผู้ทำบัญชีที่นิติบุคคลให้จัดทำบัญชีอยู่แล้วสามารถรับรองลายมือชื่อแทนได้ด้วย
การพัฒนางานด้านบริการจดทะเบียนธุรกิจของกรมฯ ในข้างต้น สอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสนับสนุนภาคธุรกิจให้ก้าวต่อไปได้อย่างรวดเร็ว มั่นคง นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพและผลักดันธุรกิจไทยให้พร้อมเข้าสู่การแข่งขันทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในเวทีโลก กรมฯ ยังคาดหวังว่าจะสามารถสร้างมิติใหม่ด้านการเริ่มต้นธุรกิจของไทยที่คล่องตัวมากขึ้นในสายตาของนักลงทุนต่างชาติส่งผลต่อเนื่องไปถึงการสร้างแรงจูงใจและดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติมาลงทุนธุรกิจในประเทศไทยมากขึ้น สำหรับอนาคตกรมฯ ขอยืนยันว่าจะพัฒนาการให้บริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกและส่งเสริมการดำเนินธุรกิจในด้านต่างๆ ให้ธุรกิจไทยสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงต่อไป