Startup Thailand 2016ปิดฉาก
ปลื้มยอดผู้ร่วมงาน 35,000 คน

การจัดงาน “Startup Thailand 2016” ครั้งแรกในประเทศไทย โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีผนึกกำลังร่วมกับ 11 หน่วยงานจากทั้งภาครัฐและเอกชนจัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “Unite to Rise” หรือ “รวมพลังสตาร์ทอัพเพื่อก้าวต่อไปของเศรษฐกิจไทย” เป็นเวลา 4 วัน ระหว่างวันที่ 28 เมษายนถึง 1 พฤษภาคม 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ประสบความสำเร็จ  มีผู้เข้าร่วมชมงานแสดงนิทรรศการ ฟังปาฐกถาพิเศษ และเสวนากันอย่างล้นหลาม รวมกว่า 35,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นการจัดงาน Startup ที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย

โดยจำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานประมาณ 35,000 คน แบ่งออกเป็นผู้ลงทะเบียนออนไลน์ก่อนงาน (Online Pre-registration) ประมาณ 31,000 คน และลงทะเบียนหน้างาน (Walk-in registration) ประมาณ 4,000 คน ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยในการจัดงานครั้งนี้ สามารถบรรลุจุดมุ่งหมายในการจัดงานได้เป็นอย่างดี คือ เป็นการรวม Startup ในประเทศไทย ได้มาแชร์ไอเดียในการทำธุรกิจ เหล่านักธุรกิจ Startup ก็ได้พบกับนักลงทุน เกิดการต่อยอดและขยายของธุรกิจ นอกจากนั้นประชาชนทั่วไป คนรุ่นใหม่ ยังได้รู้จัก Startup มากขึ้น

ภายในงานเกิดกิจกรรมเกิดขึ้นมากมาย ในจำนวนนี้รวมถึงการที่สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) จับมือลงนาม MOU กับบริษัท AGW Group LTD ของประเทศอิสราเอล เพื่อพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในประเทศไทย

ซึ่งบริษัท  AGW Group LTD มีความรู้ความเชี่ยวชาญ (Know-how) ด้านการพัฒนาผู้ประกอบการสตาร์ทอัพและจัดตั้งสำนักงานเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการสตาร์ทอัพต่างๆ ในทวีปเอเชีย รวมทั้งมีเครือข่ายด้านการลงทุนธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างเป็นระบบ

การลงนาม MOU สองหน่วยงานในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์สำคัญ ดังนี้

1.เพื่อร่วมมือในด้านการพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ โดยใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญประสบการและเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ของทั้งสองหน่วยงาน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทย

2.เพื่อสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญในด้านการลงทุนและการให้คำปรึกษาแก่ธุรกิจสตาร์ทอัพเพื่อช่วยสนับสนุนกระบวนการบ่มเพาะและพัฒนาผู้ประกอบการ (Incubation) ตลอดจนการเร่งรัดธุรกิจสู่ตลาดสากล (Acceleration) มุ่งหวังให้เกิดการลงทุนในธุรกิจดังกล่าว

3.เพื่อร่วมมือส่งเสริมระบบนิเวศน์ของธุรกิจสตาร์ทอัพ ผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกระบวนการทำงานของทั้งสองหน่วยงาน โดยอาศัยเครือข่ายความร่วมมือและช่องทางระหว่างผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศในการส่งเสริมให้ธุรกิจสตาร์ทอัพและเกิดการลงทุนในภูมิภาคเอเชียในอนาคตต่อไป