ปี64 นักเรียนไทยเลือกศึกษาต่อประเทศเสี่ยงโควิดน้อยกว่า นิวซีแลนด์-แคนาดา ขึ้นแท่นสุดฮอต แทนสหรัฐฯ-สหราชอาณาจักร

นักเรียนไทยเลือกศึกษาต่อยังประเทศที่เสี่ยงโควิดน้อยกว่าในปี 2564 นิวซีแลนด์และแคนาดาได้รับความนิยมมากขึ้นแทนที่สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรในการศึกษาต่อ

จากข้อมูลของ International Education Solutions (IES) สถาบันผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อต่างประเทศ เผยว่านักเรียนไทยที่วางแผนศึกษาต่อต่างประเทศในปี 2564 นี้ เลือกเรียนต่อยังมหาวิทยาลัยและโรงเรียนในประเทศที่มีความปลอดภัยด้านการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดมากกว่าอย่างนิวซีแลนด์และแคนาดาแทนประเทศยอดฮิตอย่างสหรัฐอเมริกาหรือสหราชอาณาจักร เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านการอนุมัติวีซ่านักเรียนของสหรัฐอเมริกาและสถาบันที่รองรับนักศึกษาต่างชาติของประเทศอังกฤษ รวมกับปัจจัยด้านการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดส่งผลให้นักเรียนต้องปรับแผนในการเลือกประเทศที่จะเดินไปศึกษาต่อ

ในแต่ละปีมีนักเรียนไทยกว่า 15,000 คนเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ โดย 80% เลือกเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาหรือสหราชอาณาจักร ซึ่งสร้างรายได้ให้กับมหาวิทยาลัยเป็นจำนวนมาก โดย Higher Education Policy Institute ของประเทศอังกฤษ ประเมินรายได้ดังกล่าวไว้ที่  2 หมื่นล้านปอนด์ต่อปี ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาคาดว่าจำนวนเงินดังกล่าวสูงถึง 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ปัจจุบันส่งผลให้นักเรียนหลายคนตัดสินใจเลื่อนกำหนดการเดินทางศึกษาต่อไปจนถึงปีหน้า ซึ่งจะสามาถทำได้กรณีที่มหาวิทยาลัยยินยอมเก็บโควต้าที่นั่งเรียนไว้ให้หรือคืนเงินที่ได้ชำระไว้แล้ว  ซึ่งทางมหาลัยเองก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าใดนัก เนื่องจากไม่ต้องการสูญเสียรายได้จำนวนมากในปีการศึกษานี้

“การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้การศึกษาหยุดชะงักเนื่องจากนักเรียนต่างชาติยังรู้สึกไม่มั่นใจต่อสถานการณ์โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนที่ได้รับการยืนยันสิทธิ์ในการเรียนต่อแล้วในปีการศึกษาที่จะถึง  ไม่ว่าจะเป็น การปิดทำการของศูนย์ยื่นวีซ่า ศูนย์ทดสอบภาษาอังกฤษและ SAT รวมถึงมาตรการห้ามเดินทางระหว่างประเทศ และการเปลี่ยนแปลงมาตรการกักตัว ต่างสร้างความสับสนต่อแนวทางการเรียนการสอนและทำให้ทั้งนักเรียนและผู้ปกครองเผชิญกับความท้าทายในการตัดสินใจเลือกเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศ โดย IES มีทีมงานที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านการศึกษาที่สามารถให้คำแนะนำและแนะแนวนักเรียนที่กำลังจะไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศถึงแนวทางการเลือกเรียน รวมถึงช่วยติดต่อประสานงานกับโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเพื่อช่วยหาทางออกที่ดีที่สุด” คุณริชาร์ด กาสเคล ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริการสถาบัน IES กล่าว

IES มีบริการให้คำปรึกษาสำหรับครอบครัวที่กำลังวางแผนส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อตั้งแต่ระดับมัธยมปลายไปจนถึงการเลือกเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยนานาชาติ  IES University Prep บริการที่ช่วยนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมปลายวางแผนเลือกหลักสูตรตรงตามที่ต้องการในมหาวิทยาลัยชั้นนำ ไปจนถึงขั้นตอนการยื่นใบสมัคร พบปะพูดคุยกับตัวแทนจากมหาวิทยาลัย การเขียนจดหมายแนะนำตัวเอง รวมถึงให้คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการวางแผนเรียนต่อในอนาคต และเนื่องจาก IES ก่อตั้งขึ้นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดหนัก จึงสามารถดำเนินการกระบวนการทั้งหมดผ่านช่องทางออนไลน์ได้

IES มุ่งส่งเสริมทุกก้าวของเส้นทางการเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศและพร้อมสนับสนุนโรงเรียน บุคลาการด้านการศึกษาและนักเรียนในทุกระดับการศึกษา โดยนับตั้งแต่ช่วงแรกของการแพร่ระบาดและเริ่มมีการเรียนทางไกลมากขึ้น IES ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับโรงเรียนชั้นนำจากนานาประเทศในการให้คำแนะนำและหาทางออกที่ดีที่สุดด้านการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ โดยมี k-12 Academic (All A’s service) คลาสเรียนออนไลน์ที่สอนโดยอาจารย์โรงเรียนนานาชาติชั้นนำ ช่วยติวเข้มสำหรับนักเรียนที่ต้องการการเรียนเสริมนอกเวลา และนอกเหนือจากการช่วยดูแลการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว IES ยังมี International School Pathway service (ISP) ที่ช่วยดูแลการสมัครเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติอีกด้วย

ในเดือนมีนาคม 2564 IES วางแผนเปิดตัว Professional Learning Marketplace ระดับนานาชาติ ซึ่งโรงเรียนสามารถค้นหาและเลือกสรรหลักสูตรออนไลน์ที่ผ่านการตรวจสอบและเลือกสรรจากหลากหลายประเทศที่เป็นประโยชน์กับบุคลากรต่างชาติของโรงเรียนในเอเชีย อาทิ service learning, curriculum integration, Digital Content, Creating instructional learning และอื่นๆอีกมามาย

“ในปีนี้นักเรียนในประเทศไทยมีโอกาสใช้เวลาที่สถานศึกษามากกว่านักเรียนในประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ตามวิกฤตที่เกิดขึ้นล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและตลอดเวลา ส่งผลให้หลายครอบครัววางแผนการศึกษาต่อต่างประเทศได้ยากยิ่งขึ้น โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ของเราพร้อมที่จะให้คำแนะนำผู้ปกครอง นักเรียน และโรงเรียนตลอดทุกขั้นตอนเพื่อให้ทุกฝ่ายไปถึงเป้าหมายของตัวเองได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้”
คุณกาสเคล กล่าวเสริม