เจียระไน เรลเอสเต็ท-หว่ออ้ายหว่อเจีย
รุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เจาะลูกค้าจีน

“เจียระไน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์”  สบช่องธุรกิจส่ง เจียระไน เรลเอสเต็ท จับมือ หว่อ อ้าย หว่อ เจีย เตรียมรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นำเสนอโครงการคอนโดมิเนียมในประเทศไทย เจาะกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีน หลังประสบความสำเร็จในการนำเสนอโครงการคอนโดระดับชั้นนำ อาทิ แลนด์แอนด์เฮ้าส์,พฤกษา เรียลเอสเตท,เสนาดีเวลลอปเม้นท์,ควอลิตี้ เฮ้าส์ และ คิง ไว กรุ๊ป มั่นใจ เจาะกลุ่มลูกค้าชาวจีนได้เป็นอย่างดี ตั้งเป้ายอดขายคอนโดมิเนียมให้กลุ่มชาวจีน 5 พันยูนิตต่อปี

นางสาวหลุ่ย แซ่ก๊วประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เจียระไน เอ็นเตอร์ เทนเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า “ เจียระไน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านธุรกิจ แล สื่อภาษาจีนในประเทศไทย อาทิ สื่อออนไลน์ภาษาจีนบนแพลตฟอร์มวีแชท (WeChat) และเว่ยปั๋ว (Weibo) ในนามThailand Headlineและ Thailand Information Guideรวมไปถึง นิตยสารแจกฟรีภาษาจีนรายปักษ์ @Mangu (แอดม่านกู่) Thai One Mall ธุรกิจออนไลน์ระหว่างประเทศแบบ B2C เจ้าแรกในประเทศไทย โดยประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว มีพันธมิตรธุรกิจทั้ง ภาครัฐและเอกชน ในประเทศไทยและประเทศจีนเป็นจำนวนมาก ล่าสุด ได้เปิด บริษัท เจียระไน เรลเอสเต็ทเพื่อจับมือกับ หว่อ อ้าย หว่อ เจีย ผู้ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในประเทศจีน เพื่อร่วมกันเป็นตัวแทนจำหน่าย โครงการคอนโดมิเนียมระดับช้ำนำในประเทศไทย ให้กับกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่มีความสนใจ ทั้งนี้ คาดว่า จะสามารถสร้างยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 5 พันยูนิต ต่อปี

ทั้งนี้การให้บริการด้านสื่อภาษาจีน ภายใต้การบริหารงานของ เจียระไน นับว่ามีอิทธิพลสูงในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในประเทศไทยสู่กลุ่มประชาชนชาวจีนแผ่นดินใหญ่ โดยปัจจุบันมีฐานข้อมูลผู้อ่านและผู้ติดตามสื่อต่างๆของเจียระไนเป็นจำนวนมาก ที่มีความสนใจซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ทำให้เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงได้เปิด บริษัท เจียระไนเรลเอสเต็ท(JIARANAI REAL ESTATE) ขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของชาวจีนที่ให้ความไว้วางใจในการเป็นสื่อกลางซื้อ/ขายที่อยู่อาศัย

ปัจจุบัน เจียระไน เรลเอสเต็ทเป็นตัวแทนจำหน่ายคอนโดมิเนียมในระดับชั้นนำประเทศไทย อาทิ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), บริษท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน), บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด(มหาชน), บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)และ บริษัท คิง ไว กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน เป็นต้น และคาดว่าจะมีโครงการฯ อื่นๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการจับมือเป็นพันธมิตรธุรกิจกับ “ หว่อ อ้าย หว่อ เจีย ” หรือ Love My Home จะยิ่งเพิ่มศักยภาพในการขายได้อย่างดี เพราะ “ หว่อ อ้าย หว่อ เจีย ” คือผู้นำธุรกิจและมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน

มร.หวาง เผิง รองผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจต่างประเทศบริษัท หว่อ อ้าย หว่อ เจีย จำกัดหรือ Love My Home กล่าวว่า “หว่อ อ้าย หว่อ เจีย เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนายหน้าซื้อขายบ้านในประเทศจีน ปัจจุบัน มีสาขากระจายอยู่ในเมืองเศรษฐกิจหลักๆ ในประเทศจีน ได้แก่ ปักกิ่ง, เทียนจิง, ไท่หยวน, หนานจิง, ซูโจว, เซี่ยงไฮ้, หางโจว,เสฉวน,กวางสีหนานหนิง,เจียงซีหนานชั่ง, หูหนานฉางซา, หูเป่ยหวู่ฮั่น,เหอหนานเจิ้นโจว, ซานตงชิงเต่าและเจียงซูหวูซีโดยเติบโตทางธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์อย่างรวดเร็ว ด้วยบริการที่มีคุณภาพ แลได้รับการยกย่องจากศูนย์การวิจัยแบรนด์แห่งประเทศจีนภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของประเทศจีน ให้เป็น “ผู้นำและเป็นที่หนึ่งด้านการให้บริการในธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ C-BPI (China Brand Power Index) ”

นอกจากนี้หว่อ อ้าย หว่อ เจีย ยังได้ขยายสาขาไปยังต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ดูไบ กรีก อังกฤษ ไทย มาเลเซีย และยังมีสำนักงานทำการอยู่ที่เมืองชิคาโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และดูไบ อีกด้วย

สำหรับการเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรกับ เจียระไน เรลเอสเต็ทเนื่องจากมองเห็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งโครงการคอนโดมิเนียมในประเทศไทย มีคุณภาพสูงและมีความต้องการของคนจีน ผู้สนใจและรักประเทศไทย ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว จากข้อมูลพบพบว่า กลุ่มลูกค้าชาวจีน มีความต้องการที่พักอาศัยในรูปของโครงการคอนโดมิเนียมเป็นจำนวนมาก และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง

ด้านคุณอิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร  กรรมการผู้จัดการบริษัท Level Up Holding ที่ปรึกษาด้านการตลาดจีน เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจอสังหาริทรัพย์ของไทยว่า ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนชาวจีน โดยจากสถิติที่ผ่านมาพบว่า ทุนจีนลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศเป็นมูลค่าสูง โดยในปี 2017 ที่ผ่านมา มีเม็ดเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และที่อยู่อาศัยสูงถึง 119.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้น 18.1% จากมูลค่า 101.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมาทุนจีนลงทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างแดนแล้วมากกว่า 430 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเหตุดังกล่าวทำให้จีนกลายเป็นนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดของโลก 2 ปีติดกันคือ ในปี 2015 และ 2016

ขณะเดียวกันยังพบว่า  80% ของเศรษฐีชาวจีนได้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศแล้ว โดยมีเหตุผลเพื่อการลงทุนเป็นอันดับแรก หรือ 60% รองลงมาเพื่อการย้ายถิ่นฐาน 55% หรือเพื่อไว้ใช้อยู่อาศัยเอง 43%  ทุนจีนหลั่งไหลไปลงทุนในหลายประเทศ รวมถึงออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์และไทย โดยเฉพาะไทยมีมูลค่าสูงสุดราว 140,000 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างปี 2013-2018

สถิติดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ทุนจีนยังแข็งแกร่งและพร้อมที่จะลงทุนในตลาดต่างประเทศต่อเนื่องไปเป็นเวลาหลายปี ดังนั้นจึงเป็นโอกาสในการลงทุนของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน  โดยหัวเมืองที่มีทุนจีนเข้ามาเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ได้แก่ พัทยา ภูเก็ต โดยสนใจบ้านพักริมทะเล นอกจากนี้ยังสนใจอพาร์ทเมนต์ คอนโดมิเนียมและบ้านพักอาศัยมีบริเวณบ้านในกรุงเทพ เชียงใหม่ และเกาะสมุย

ขอบคุณภาพประกอบ-อิทธิชัย-จากhttps://marketeeronline.co